“อนุทิน” ออกข้อสั่งการ รพ.ทุกแห่งจัดวอล์กอินฉีดวัคซีนโควิดช่วงสงกรานต์เต็มที่ ขอลูกหลานกลับบ้านพาผู้สูงอายุมาฉีด แจงเหลือแต่คนไม่ยอมมาฉีดวัคซีน ย้ำ เข็มกระตุ้นช่วยปิดความเสี่ยง ลดป่วยรุนแรง-เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่จังหวัดที่ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นให้แก่ผู้สูงอายุได้ตามเป้าหมายมากกว่า 70% ได้แก่ น่าน นนทบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต มหาสารคาม และ ลำพูน ในกิจกรรมสงกรานต์สุขใจ ปลอดภัยทั่วไทย สูงวัยได้รับวัคซีน ว่า ก่อนเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ ขอให้ประชาชน Self Clean Up ตัวเอง 1 สัปดาห์ งดการรวมกลุ่ม ไม่ไปสถานที่เสี่ยง ฉีดวัคซีนให้ครบ และตรวจ ATK ก่อนเดินทางเพื่อลดความเสี่ยงในการเอาเชื้อไปแพร่ให้คนในครอบครัว หากตรวจพบติดเชื้อก็งดการเดินทางไปก่อน แยกตัวและรักษา ซึ่งไม่ใช่ทุกคนต้องได้ยาต้านไวรัส ส่วนใหญ่ก็หายเอง โดยไม่ต้องกินยา ด้วยความแข็งแรง และภูมิที่สร้างมาต่อต้านเชื้อ บางคนกินยาตามอาการ บางคนกินฟ้าทะลายโจร เว้นมีอาการค่อนข้างหนัก แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาต่านไวรัสตามสมควรแก่เหตุ
สำหรับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่ 90% เป็นผู้สูงอายุ และกว่า 60% ไม่ได้รับวัคซีน จะเห็นว่าบุคคลทั่วไป วัยทำงาน วัยเด็กวัยรุ่น รับวัคซีนแล้ว โดยเฉพาะเข็ม 3 แทบไม่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตเลย แม้จะติดเชื้อก็แทบไม่มีอาการ ก็รักษาด้วยยาที่จัดสรรไว้ก็หาย โดยวัคซีนจะช่วยลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตลงได้ สำหรับจังหวัดที่ยังฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุได้น้อย เท่าที่รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัด ก็พบว่า ผู้ที่อยากฉีดฉีดครบหมดแล้ว เหลือแต่กลุ่มที่ยังปฏิเสธการฉีด จึงขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ มีเวลาอยู่บ้าน 4-5 วัน น่าจะมีช่วงเวลาที่เหมาะสมพาบุพการี ผู้สูงอายุในบ้าน หรือผู้ยังไม่ยอมรับวัคซีน ขอให้ช่วยกันโน้มน้าวและพามาฉีดวัคซีน นอกจากนี้ เราไม่ได้รอให้มาฉีดอย่างเดียว ยังมีหน่วยเชิงรุกออกไปฉีดพื้นที่ต่างๆ และขอร้องให้ อสม.เร่งทำการรณรงค์อธิบายสร้างความเข้าใจแก่ผู้สูงอายุให้ยอมฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลว่า เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะลดความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ถ้าปิดความเสี่ยงด้วยวัคซีนการสูญเสียเจ็บหนักก็ไม่เกิด
“ไทยฉีดวัคซีนมากกว่า 130 ล้านโดส วัคซีนทำงานทำหน้าที่ตรงความคาดหวัง แต่มีจุดเดียวที่ไม่ตรงความคาดหวัง คือ ผู้สูงอายุ มี 2 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีน การเร่งฉีดผู้สูงอายุเฉพาะกลุ่มทำได้ยากกว่าการรณรงค์ทั่วไป ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือ ทั้งนี้ ขอให้ลูกหลานที่กลับบ้านพาผู้สูงอายุมารับการฉีดวัคซีน โดยขะมีข้อสั่งการถึงสถานพยาบาลในสังกัด สธ.ทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมบริการวอล์กอินผู้มาฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ และให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด ผอ.รพ.ทุกแห่ง และกรมควบคุมโรคจัดเตรียมวัคซีนให้พร้อม ย้ำว่าช่วงสงกรานต์ไม่ต้องฉีดน้ำ มาฉีดวัคซีนแทน” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วติดเชื้อโควิดจะรับการรักษาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนใหญ่กว่าจะติดเชื้อก็น่าจะกลับมาแล้ว แต่ถ้าติดเชื้อต่างจังหวัด หากไม่มีอาการ ให้แยกตัวเองทันที แจ้งยังหน่วยพยาบาลที่ใกล้สุด จะมีข้อสั่งการ รพ.ทุกแห่งในประเทศเตรียมความพร้อมสูงสุดไว้
ด้าน พญ.สุมนี วัชระสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีผู้สูงอายุยังไม่ได้วัคซีนแม้แต่เข็มเดียวประมาณ 2.07 ล้านคน ส่วนใหญ่กว่า 50% เป็นคนมีโรคประจำตัว เป็นผู้สูงอายุติดบ้าน ไม่อยากออกไปไหน กลัวโควิด คิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงไม่ได้ไปเจอใครเลยไม่ฉีด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และภาคอีสาน เขตสุขภาพที่ 10 ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ผ่านมาเราพบว่าในช่วงเทศกาลจะมีผู้ติดเชื้อในบ้านพุ่งสูงขึ้น และจากการวิเคราะห์การเสียชีวิตพบว่าจะมีการเสียชีวิตสูง หลังมีการติดเชื้อในช่วงเทศกาล