xs
xsm
sm
md
lg

แจงลดกักตัวเสี่ยงสูง “โควิด” เหลือ 5 วัน เหตุโอมิครอนฟักตัวสั้น รอ ศบค.เคาะ พ่วงจับตาสงกรานต์ คาดเริ่ม พ.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมควบคุมโรค แจง ลดวันกักตัวเสี่ยงสูงโควิด เหตุระยะฟักตัวโอมิครอนสั้น จึงปรับให้อยู่บ้าน 5 วัน สังเกตอาการอีก 5 วัน สอดคล้องกับทั่วโลก คาดเริ่มใช้ช่วง พ.ค. ขึ้นกับการพิจารณาของ ศบค.และการประเมินหลังสงกรานต์ ส่วนติดเชื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก 50-60 คน ระบบรองรับได้

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ให้ลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงโควิดเหลือ 5 วัน สังเกตอาการ 5 วัน ว่า การลดวันกักตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก หลักการคือเราดูจากระยะฟักตัวของโรคหลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ โดยย้ำว่า คนกักตัวไม่ใช่คนป่วย ดังนั้น เราจะคิด 2 อย่าง คือ 1. ความเสี่ยง ซึ่งการใกล้ชิดนั้น ไม่ใช่เพียงพบหน้าผู้ติดเชื้อแล้ว แปลว่า มีความเสี่ยงต้องกักตัว และ 2. เดิมเราใช้มาตรการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 วัน ที่บ้านไม่พบผู้อื่นเลย และอีก 3 วันให้สังเกตอาการตนเองโดยออกจากพื้นที่ได้ แต่ต้องคงมาตรการป้องกันตัวสูงสุด ทั้งนี้ จะมีการเสนอตามขั้นตอนไปที่ ศปก.ศบค. แล้วไปยัง ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป

“ขณะนี้เรามีข้อมูลว่า โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ระยะฟักตัวค่อนข้างสั้น ทั่วโลกก็เริ่มลดวันกักตัวในการเดินทางลง รวมถึงในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คณะกรรมการจึงเห็นชอบว่าให้ลดวันกักตัวเหลือ 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน เป็นระยะเวลารวม 10 วันเท่าเดิม เพียงแต่ 5 วันแรก ที่เสี่ยงสูงสุดให้อยู่ที่บ้านและอีก 5 วัน ให้สังเกตอาการโดยออกไปไหน มาไหนได้ แต่ต้องระวังตัวเองสูงสุด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา” นพ.โอภาส กล่าว

เมื่อถามว่า จะสามารถเริ่มใช้มาตรการได้ช่วงใด นพ.โอภาส กล่าวว่า คาดว่า อย่างช้าที่สุด คือ พ.ค. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาเห็นชอบจาก ศบค. รวมถึงการประเมินสถานการณ์หลังสงกรานต์ เนื่องจากคาดว่าน่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในการควบคุมดูแลได้ หากทุกอย่างเป็นไปตามคาดหมาย ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามขั้นตอน

ถามต่อว่า การปรับวันกักตัวเพื่อให้สอดคล้องกับผู้เดินทางจากต่างประเทศบางส่วนที่เข้าระบบกักตัวก็ลดเหลือ 5 วันด้วยหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ประเทศต่างๆ เรื่องวันกักตัวก็ลดลงค่อนข้างเยอะ ก็ดู 2 อย่าง คือ สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศ และจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเข้ามาประเทศเรา ขณะนี้ประเทศเราติดเชื้อระดับค่อนข้างสูงและทรงตัว เทียบกับผู้ติดเชื้อที่เข้ามาในประเทศไทย วันนี้ เฉลี่ย 50-60 คน ก็ไม่เยอะมากนักจนมีผลกระทบต่อระบบการดูแลรักษาควบคุมโรค เป็นปัจจัยที่แต่ละประเทศพิจารณากัน

“ผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก และไม่มีผลกระทบเรื่องการดูแลรักษาในประเทศและสถานการณ์ควบคุมโรคมากนัก เนื่องจากจำนวนไม่ค่อย และฉีดวัควีนแล้ว ส่วนใหญ่เวลาป่วยก็จะมีการทำประกันสุขภาพ และการรักษาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการ ก็ไม่ค่อยมีผลกระทบ ถ้าดูแนวโน้มทั่วโลกก็มีการเปิดให้การเดินทางกลับมาเป็นปกติ ส่วนไทยก็ทำเป็นขั้นตอนลดทีละสเต็ป หากไม่มีเหตุผิดปกติหรือมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นก้ลดไปทีละสเต็ป เป็นไปตามแผนที่วางไว้” นพ.โอภาส กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น