xs
xsm
sm
md
lg

จว.ใหญ่-หัวเมือง “โควิด” ยังพุ่ง ป่วยหนักแนวโน้มสูง พบดับเกิน 80 รายต่อเนื่องแล้ว 1 สัปดาห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.คาดติด โควิด” ราว 5-6 หมื่นรายต่อวัน เหตุมีกลุ่ม ATK ผลบวกไม่ได้รายงาน พบป่วยหนัก-ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่อยู่ในเส้นคาดการณ์ จังหวัดใหญ่-หัวเมือง ยังติดเชื้อสูง วันนี้พบเด็ก 5 เดือน 2 ราย ตายจากโควิด ภาพรวมผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ไม่ได้รับวัคซีน ห่วงสงกรานต์ติดเชื้อสูงอีก ขอเข้ม VUCA ช่วยลดป่วยหนัก

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ว่า วันนี้ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากผลตรวจ RT-PCR จำนวน 21,088 ราย และจาก ATK 10,884 ราย รวมแล้วประมาณ 31,972 ราย โดยรวมผู้ติดเชื้อรายงาน 3-4 หมื่นรายต่อวัน แต่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งที่ตรวจแล้วผลบวกด้วยตัวเองอีกจำนวนหนึ่ง เฉลี่ย 5-6 หมื่นรายต่อวัน ซึ่งจำนวนนี้ยังอยู่ในการคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำหรับผู้หายป่วยวันนี้ 27,519 ราย อยู่ในระบบการรักษา รพ.สนาม 186,097 ราย และ รพ. 64,048 ราย จำนวนนี้มีอาการปอดอักเสบ 1,862 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 781 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก และใส่ท่อช่วยหายใจ มีทิศทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนยอดการติดเชื้อ โดยอัตราครองเตียงอยู่ที่ 28.3% หรือ 1 ใน 3 ของเตียงทั้งหมด ระบบสาธารณสุขยังรองรับได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาการหนักขณะนี้เทียบกับการติดเชื้อช่วง เม.ย.ปีที่แล้ว ยังถือว่าน้อยกว่ามาก แต่ประมาทไม่ได้ ไม่ติดเชื้อจะดีที่สุด

“เมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีรายงานติดเชื้ออย่างต่อเนื่องยังเป็นจังหวัดใหญ่ๆ และหัวเมืองตามภาคต่างๆ ได้แก่ ชลบุรี นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี ระยอง และสงขลา ส่วนที่ติดเชื้ออันดับ 1 คือ กทม. ซึ่งวันนี้ กทม.รายงานติดเชื้อ 3,286 ราย” พญ.สุมนีกล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยปอดอักเสบ และเสียชีวิตยังเป็นไปตามคาดการณ์ อย่างกรณีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจสถานการณ์จริงอยู่ระหว่างเส้นคาดการณ์สีเหลืองและสีแดง ซึ่งถือว่ายังมีทิศทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ช่วงสงกรานต์ที่หยุดยาวอาจมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปอีก จึงต้องให้ความสำคัญกับมาตรการ VUCA คือ V ไปรับการฉีดวัคซีน หากยังไม่ได้เข็มแรกก็ควรไปรับ หรือรับครบแล้วก็ควรรับเข็มกระตุ้น เพื่อลดอาการหนักและเสียชีวิต, U ป้องกันตนเองตลอดเวลา (Universal Prevention) คิดว่ารอบตัวอาจมีผู้ติดเชื้อ หรือเรารับเชื้อไม่มีอาการ อาจติดคนใกล้ชิดได้ ต้องเข้มมาตรการใส่หน้ากาก อยู่ห่าง ล้างมือ ไม่ไปสถานที่แออัด ไม่กินหรือไม่ดื่มร่วมกันกับคนจำนวนมากๆ, C มาตรการความปลอดภัยขององค์กร (COVID Free Setting) ควรดำเนินการในช่วงนี้ เนื่องจากมีการเปิดประเทศ ไม่ได้มีการล็อกดาวน์หรืองดการทำงาน ต้องจัดสถานที่ทำงานไม่ให้แออัด และ A สุ่มตรวจ ATK เป็นระยะ เมื่อพบผู้ติดเชื้อจะได้เข้าสู่การดูแลรักษาต่อไป มาตรการ VUCA มีความสำคัญจะทำให้สถานการณ์ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจไม่ขึ้นมากไปกว่านี้

สำหรับสถานการณ์ผู้เสียชีวิตยังอยู่ในเส้นคาดการณ์สีเหลือง ภาพรวมยังเพิ่มขึ้นช้าๆ เช่นเดียวกับผู้ป่วยปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจ การลดการเสียชีวิตจากโควิดหลักๆ คือ รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยกลุ่มเสี่ยง คือ อายุมากกว่า 60 ปี และมีโรคประจำตัว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 2565 เป็นต้นมา มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 รายทุกวัน รวมถึงวันนี้ 7 วันแล้ว โดยวันนี้รายงาน 91 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรัง โดยโรคเรื้อรังที่พบรายงานทุกวัน คือ อ้วน มะเร็ง ไตเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง และหลอดเลือดหัวใจ โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือ ติดจากคนรู้จัก คนในครอบครัว อยู่ในพื้นที่เสี่ยง

“วันนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กเล็ก 2 คน คือ ด.ช.อายุ 5 เดือน จ.ตราด ติดเชื้อจากคนในครอบครัว อาการสำคัญคือปอดอักเสบ และ ด.ญ.ชาวเมียนมา อายุ 5 เดือน อยู่ จ.สมุทรปราการ มีประวัติติดจากคนในครอบครัวและมีอาการปอดอักเสบเช่นกัน ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย” พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตวันนี้พบว่า ไม่ได้รับวัคซีน 42 ราย คิดเป็น 46%, ได้รับ 1 เข็ม 9 ราย คิดเป็น 10%, ได้รับครบ 2 เข็มเกิน 3 เดือน 31 ราย คิดเป็น 34%, รับครบ 2 เข็มน้อยกว่า 3 เดือน 3 ราย คิดเป็น 3% และรับวัคซีนครบ 3 เข็ม 6 ราย คิดเป็น 7% ทุกครั้งที่ผู้เสียชีวิตรายงานยังเป็นกลุ่ม 608 และไม่ได้วัคซีนหรือได้ไม่ครบ หรือได้ครบแล้วนานเกิน 3 เดือน ซึ่งในสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอน การลดการป่วยหนักและเสียชีวิตนอกจากมาตรการส่วนบุคคลแล้วคือ รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากเมื่อรับเกิน 2 เข็มแล้วเมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลง การรับเข็มกระตุ้นไม่ว่าเข็มที่ 3 หรือ 4 จึงจำเป็นมากในขณะนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น