สบส.สั่งระงับโฆษณา รพ.เอกชน ย่านบางปะกอก อวดอ้างแจกยาฟาวิพิราเวียร์ ฟรี ชี้โฆษณาไม่ขออนุญาต และเป็นเท็จหรือโอ้อวด เหตุเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องจ่ายภายใต้ดุลพินิจแพทย์ ย้ำ ผู้ป่วยไม่ต้องรับยาต้านไวรัสทุกราย เสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เผย มีโทษคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า สบส.ได้รับข้อมูลว่า มี รพ.เอกชนแห่งหนึ่งโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนลงทะเบียนรับยาฟาวิพิราเวียร์ ฟรี ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายขึ้นได้ เนื่องจากการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ต้องผ่านดุลพินิจของแพทย์ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้ยา ดังนั้น สบส.จึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า มี รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านบางปะกอก โฆษณาแจกยาฟาวิพิราเวียร์ผ่านเว็บไซต์ โดยให้ผู้รับบริการสแกนคิวอาร์โคด ส่งประวัติการป่วยให้กับ รพ. ก็สามารถได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ภายใน 48 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า การโฆษณาดังกล่าวไม่ได้ขออนุมัติจาก สบส. รวมทั้งมีโฆษณาอื่นๆ ของ รพ.ที่เข้าข่ายโอ้อวดเกินจริง จึงมีหนังสือคำสั่งให้ระงับการโฆษณาและเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมารับทราบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 เรื่องของการโฆษณา ได้แก่ 1. เผยแพร่โฆษณาหรือประกาศโดยไม่ได้ขออนุมัติ และได้รับอนุมัติจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา และ 2. โฆษณาหรือประกาศอันเข้าข่ายเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา นอกจากนี้ ยังผิด พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ซึ่งไม่อนุญาตให้โฆษณายาฟาวิพิราเวียร์ด้วย” นพ.ธเรศ กล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่ไม่ใช่ยาที่จะจ่ายให้ผู้ป่วยทุกราย โดยกลุ่มที่ไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรครุนแรง ก็ไม่จำเป็นต้องรับยาต้านไวรัส เพราะหายเองได้ ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ การจะจ่ายยาให้กับผู้ป่วยแต่ละรายต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวังอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างกรณีหญิงตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสแรก การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์อาจกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทารกในครรภ์ และผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับอาจทำให้ตับทำงานหนักขึ้น ขอแนะนำให้ผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการวินิจฉัยและประเมินอาการจากแพทย์ เพื่อการรักษาและจ่ายยาที่เหมาะสมตามอาการ โดยไม่ควรจัดหาหรือซื้อยาฟาวิพิราเวียร์มาใช้เอง