14 จังหวัดยอดโควิดเกิน 300 ราย กทม.ยังเกิน 3 พันรายต่อเนื่อง ทำยอดประเทศรวมทะลุ 1.7 หมื่นราย ป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ แนวโน้มสูงขึ้น สลด 105 ปีดับจากโควิด
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 13 นับจากการระบาดระลอก 1 ม.ค. 2565 โดยรายงานติดเชื้อ 17,349 ราย สะสม 2,656,411 ราย หายป่วย 11,561 ราย สะสม 2,489,812 ราย เสียชีวิต 22 ราย สะสม 22,538 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 144,061 ราย มีอาการหนัก 728 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 163 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 22 ราย มาจาก 18 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 3 ราย , กทม. สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 2 ราย และ สมุทรปราการ ขอนแก่น นครราชสีมา มหาสารคาม ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เชียงราย ชุมพร ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม สระแก้ว สระบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 12 ราย อายุ 50-105 ปี เฉลี่ย 73 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 96%
ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. กทม. 3,063 ราย 2. สมุทรปราการ 866 ราย 3. ชลบุรี 821 ราย 4. นครศรีธรรมราช 743 ราย 5. ภูเก็ต 510 ราย 6. นนทบุรี 423 ราย 7. นครราชสีมา 415 ราย 8. สมุทรสาคร 414 ราย 9. ปทุมธานี 395 ราย และ 10. บุรีรัมย์ 339 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 33 จังหวัด คือ ระยอง 327 ราย, นครปฐม 318 ราย, ขอนแก่น 315 ราย, ฉะเชิงเทรา 307 ราย, อุบลราชธานี 285 ราย, สงขลา 284 ราย, เชียงใหม่ 276 ราย, ราชบุรี 264 ราย, ชัยภูมิ 261 ราย, สระบุรี 257 ราย, นครสวรรค์ 240 ราย, กาญจนบุรี 239 ราย, กำแพงเพชร 238 ราย, สุราษฎร์ธานี 237 ราย, กาฬสินธุ์ 216 ราย, พระนครศรีอยุธยา 212 ราย, ร้อยเอ็ด 208 ราย, สุรินทร์ 202 ราย, สุพรรณบุรี 200 ราย, มหาสารคาม 187 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 182 ราย, ลพบุรี 176 ราย, อุดรธานี 172 ราย, หนองคาย 169 ราย, พิษณุโลก 157 ราย, ปราจีนบุรี 156 ราย, เพชรบุรี 155 ราย, ชุมพร 152 ราย, หนองบัวลำภู 149 ราย, จันทบุรี 148 ราย, กระบี่ 116 ราย, พัทลุง 112 ราย และสุโขทัย 107 ราย ส่วนวันนี้ไม่มีจังหวัดใดที่ติดเชื้อหลักหน่วย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 169 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 245 ราย ใน 42 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 85 ราย, กัมพูชา 22 ราย, เยอรมนี 17 ราย, ฝรั่งเศส 14 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 13 ราย, คาซัคสถาน 9 ราย, อิสราเอล ยูเครน ประเทศละ 8 ราย, เดนมาร์ก 7 ราย, ตุรกี 6 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 97 ราย แซนด์บ็อกซ์ 109 ราย ระบบกักตัว 34 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 5 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-16 ก.พ. 2565 จำนวน 103,395 ราย รายงานติดเชื้อ 2,890 ราย คิดเป็น 2.8% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 57,023 ราย ติดเชื้อ 556 ราย คิดเป็น 0.98% แซนด์บ็อกซ์ 39,614 ราย ติดเชื้อ 2,139 ราย คิดเป็น 5.4% และกักตัว 6,758 ราย ติดเชื้อ 195 ราย คิดเป็น 2.89%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 16 ก.พ. ฉีดได้ 182,122 โดส สะสมรวม 120,702,893 โดส เป็นเข็มแรก 52,911,072 ราย คิดเป็น 76.1% ของประชากร เข็มสอง 49,323,928 ราย คิดเป็น 70.9% ของประชากร และเข็มสาม 18,467,893 ราย คิดเป็น 26.6% ของประชากร