43 จังหวัดติดเชื้อโควิดเกินร้อยราย ดันยอดติดเชื้อใหม่ไทยวันนี้กลับมาสูง 1.6 หมื่นกว่าราย กทม.ยังติดเชื้อสูงสุด 2.8 พันราย ดับสูงสุด 8 ราย สมุทรปราการเกือบพันราย ชลบุรีกลับมาพุ่ง 805 ราย ป่วยหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คนแห่เข้าไทยผ่าน Test&Go เยอะขึ้น พบอัตราติดเชื้อ 0.9%
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 12 นับจากการระบาดระลอก 1 ม.ค. 2565 โดยรายงานติดเชื้อ 16,462 ราย สะสม 2,639,600 ราย หายป่วย 10,868 ราย สะสม 2,478,251 ราย เสียชีวิต 27 ราย สะสม 22,516 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 138,295 ราย มีอาการหนัก 699 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 155 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 27 ราย มาจาก 16 จังหวัด ได้แก่ กทม.สูงสุด 8 ราย, ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ มุกดาหาร อุดรธานี อุบลราชธานี พิจิตร ลำปาง อุตรดิตถ์ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 15 ราย อายุ 32-98 ปี เฉลี่ย 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 96%
ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. กทม. 2,891 ราย 2. สมุทรปราการ 994 ราย 3. ชลบุรี 805 ราย 4. นนทบุรี 661 ราย 5. ภูเก็ต 496 ราย 6. สมุทรสาคร 460 ราย 7. นครราชสีมา 457 ราย 8. นครศรีธรรมราช 402 ราย 9. ปทุมธานี 382 ราย และ 10. ราชบุรี 371 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 33 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา 346 ราย, ระยอง 308 ราย, ขอนแก่น 306 ราย, เชียงใหม่ 294 ราย, บุรีรัมย์ 280 ราย, มหาสารคาม 258 ราย, กาญจนบุรี 247 ราย, สุพรรณบุรี 247 ราย, สุรินทร์ 241 ราย, กาฬสินธุ์ 237 ราย, สระบุรี 231 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 202 ราย, อุบลราชธานี 202 ราย, ปราจีนบุรี 193 ราย, สุราษฎร์ธานี 192 ราย, เพชรบุรี 188 ราย, นครปฐม 178 ราย, พระนครศรีอยุธยา 176 ราย, สงขลา 174 ราย, กำแพงเพชร 165 ราย, พิษณุโลก 165 ราย, หนองคาย 154 ราย, หนองบัวลำภู 151 ราย, ร้อยเอ็ด 148 ราย, เพชรบูรณ์ 147 ราย, นครสวรรค์ 142 ราย, ชัยภูมิ 137 ราย, จันทบุรี 124 ราย, อุดรธานี 123 ราย, นครนายก 116 ราย, ชุมพร 105 ราย, ศรีสะเกษ 104 ราย และกระบี่ 103 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วย 1 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน 6 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 141 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 136 ราย ใน 40 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 40 ราย, เมียนมา 10 ราย, ฝรั่งเศส เยอรมนี ประเทศละ 7 ราย, สิงคโปร์ เดนมาร์ก คาซัคสถาน ประเทศละ 5 ราย, อังกฤษ ตุรกี สวีเดน โอมาน ประเทศละ 4 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 60 ราย แซนด์บ็อกซ์ 69 ราย ระบบกักตัว 6 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 1 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.พ. 2565 จำนวน 96,344 ราย รายงานติดเชื้อ 2,670 ราย คิดเป็น 2.77% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 51,270 ราย ติดเชื้อ 459 ราย คิดเป็น 0.9% แซนด์บ็อกซ์ 38,521 ราย ติดเชื้อ 2,029 ราย คิดเป็น 5.27% และกักตัว 6,553 ราย ติดเชื้อ 182 ราย คิดเป็น 2.78%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 15 ก.พ. ฉีดได้ 303,584 โดส สะสมรวม 120,520,771 โดส เป็นเข็มแรก 52,876,077 ราย คิดเป็น 76% ของประชากร เข็มสอง 49,300,254 ราย คิดเป็น 70.9% ของประชากร และเข็มสาม 18,344,440 ราย คิดเป็น 26.4% ของประชากร