xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มโควิดไทยลดลงเล็กน้อย แต่ยังติดสูง 1.4 หมื่นราย กทม.กลับมาพุ่ง 3.1 พันราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แนวโน้มโควิดไทยลดลงเล็กน้อย แต่ยังติดเชื้อสูง 1.4 หมื่นราย พบในเรือนจำสูง 131 ราย มาจากต่างประเทศ 196 ราย ส่วนในประเทศ กทม.กลับมาพุ่งอีก 3.1 พันราย ส่วนจังหวัดอื่นเริ่มพบลดลงเล็กน้อย จังหวัดติดเชื้อเกินร้อยรายลดลงเหลือ 36 จังหวัด

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 11 นับจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นมา คือ 14,373 ราย สะสม 2,622,600 ราย หายป่วย 11,551 ราย สะสม 2,467,383 ราย เสียชีวิต 27 ราย สะสม 22,489 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 124,869 ราย มีอาการหนัก 641 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 126 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 25 ราย มาจาก 15 จังหวัด ได้แก่ กทม.สูงสุด 8 ราย , ศรีสะเกษ อุดรธานี ภูเก็ต ชลบุรี ราชบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ สมุทรปราการ เลย ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ พังงา สุราษฎร์ธานี และเพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 11 ราย อายุ 39-95 ปี เฉลี่ย 77 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 96%

ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. กทม. 3,180 ราย 2. สมุทรปราการ 887 ราย 3. ชลบุรี 548 ราย 4. นนทบุรี 512 ราย 5. ภูเก็ต 469 ราย 6. นครศรีธรรมราช 429 ราย 7. นครราชสีมา 354 ราย 8. นครปฐม 345 ราย 9. สมุทรสาคร 337 ราย และ 10. เชียงใหม่ 317 ราย

สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 26 จังหวัด คือ ปทุมธานี 291 ราย, บุรีรัมย์ 277 ราย, กาญจนบุรี 253 ราย, ร้อยเอ็ด 240 ราย, ราชบุรี 227 ราย, สุรินทร์ 225 ราย, สุราษฎร์ธานี 212 ราย, พระนครศรีอยุธยา 205 ราย, กาฬสินธุ์ 200 ราย, สระบุรี 197 ราย, ขอนแก่น 180 ราย, ฉะเชิงเทรา 174 ราย, อุบลราชธานี 173 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 171 ราย, ระยอง 166 ราย, พิษณุโลก 150 ราย, สุพรรณบุรี 143 ราย, สงขลา 130 ราย, เพชรบุรี 127 ราย, นครสวรรค์ 124 ราย, ชุมพร 112 ราย, มหาสารคาม 111 ราย, พัทลุง 108 ราย, ปราจีนบุรี 106 ราย, หนองบัวลำภู 105 ราย และศรีสะเกษ 100 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วย 2 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน 6 ราย และสตูล 4 ราย

ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 131 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 196 ราย ใน 40 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 85 ราย, เมียนมา 13 ราย, เยอรมนี 12 ราย, คาซัคสถาน 9 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ 6 ราย, อังกฤษ ยูเครน ฟินแลนด์ ประเทศละ 5 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 70 ราย แซนด์บ็อกซ์ 107 ราย ระบบกักตัว 9 ราย และลักลอบเข้าประเทศจากเมียนมา 10 ราย

สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-14 ก.พ. 2565 จำนวน 89,858 ราย รายงานติดเชื้อ 2,535 ราย คิดเป็น 2.82% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 46,260 ราย ติดเชื้อ 399 ราย คิดเป็น 0.86% แซนด์บ็อกซ์ 37,205 ราย ติดเชื้อ 1,960 ราย คิดเป็น 5.27% และกักตัว 6,393 ราย ติดเชื้อ 176 ราย คิดเป็น 2.75%

การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 14 ก.พ. ฉีดได้ 207,281 โดส สะสมรวม 120,217,187 โดส เป็นเข็มแรก 52,823,235 ราย คิดเป็น 75.9% ของประชากร เข็มสอง 49,255,942 ราย คิดเป็น 70.8% ของประชากร และเข็มสาม 18,138,010 ราย คิดเป็น 26.1% ของประชากร


กำลังโหลดความคิดเห็น