10 จังหวัดติดโควิดสูงสุด เกิน 300 ราย "กทม." ยังเกิน 2.6 พันรายต่อเนื่อง เผยเกินครึ่งประเทศติดเชื้อเกินร้อย ทำยอดโควิดไทยวันนี้ยังเกินหมื่นรายต่อเนื่อง ส่วนอาการหนัก เสียชีวิตยังทรงตัว
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 6 นับจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นมา คือ 14,822 ราย สะสม 2,545,873 ราย หายป่วย 8,503 ราย สะสม 2,418,380 ราย เสียชีวิต 20 ราย สะสม 22,364 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 105,129 ราย มีอาการหนัก 563 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 114 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 20 ราย มาจาก 16 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ 3 ราย , นครพนม ชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ กทม. นนทบุรี สมุทรสาคร ขอนแก่น บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ตาก ชุมพร ตรัง พัทลุง ภูเก็ต และฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 11 ราย หญิง 9 ราย อายุ 44-94 ปี เฉลี่ย 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 100%
ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 2,635 ราย 2.สมุทรปราการ 986 ราย 3.ชลบุรี 754 ราย 4.นนทบุรี 504 ราย 5.ภูเก็ต 434 ราย 6.ราชบุรี 379 ราย 7.นครศรีธรรมราช 372 ราย 8.นครราชสีมา 334 ราย 9.สมุทรสาคร 317 ราย และ 10.สหาสารคาม 301 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 34 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ 289 ราย , ขอนแก่น 277 ราย , ปทุมธานี 262 ราย , ฉะเชิงเทรา 252 ราย , เชียงใหม่ 252 ราย , นครสวรรค์ 215 ราย , ปราจีนบุรี 214 ราย , ระยอง 211 ราย , นครปฐม 210 ราย , ร้อยเอ็ด 207 ราย , ชัยภูมิ 205 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 205 ราย , สุรินทร์ 198 ราย , เพชรบุรี 197 ราย , สุพรรณบุรี 195 ราย , พัทลุง 146 ราย , พิษณุโลก 145 ราย , สงขลา 142 ราย , สกลนคร 141 ราย , อุบลราชธานี 137 ราย , ชุมพร 133 ราย , สระบุรี 132 ราย , สุราษฎร์ธานี 130 ราย , กาญจนบุรี 129 ราย , ลพบุรี 128 ราย , สระแก้ว 122 ราย , อุดรธานี 122 ราย , น่าน 118 ราย , จันทบุรี 114 ราย , หนองคาย 113 ราย , ศรีสะเกษ 105 ราย , กาฬสินธุ์ 104 ราย , กำแพงเพชร 101 และบึงกาฬ 100 ราย ราย ส่วนติดเชื้อเพียงหลักหน่วยมี 1 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน 6 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำ 52 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 246 ราย ใน 40 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 107 ราย , เยอรมนี เดนมาร์ก ประเทศละ 11 ราย , ฝรั่งเศส 10 ราย , คาซัคสถาน 9 ราย , อังกฤษ 7 ราย , สวีเดน ยูเครน ประเทศละ 6 ราย , ซาอุดิอาระเบีย อินเดีย ประเทศละ 5 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 45 ราย แซนด์บ็อกซ์ 180 ราย ระบบกักตัว 20 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 1 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-9 ก.พ. 2565 จำนวน 48,181 ราย รายงานติดเชื้อ 1,661 ราย คิดเป็น 3.45% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 18,355 ราย ติดเชื้อ 127 ราย คิดเป็น 0.69% แซนด์บ็อกซ์ 24,977 ราย ติดเชื้อ 1,394 ราย คิดเป็น 5.58% และกักตัว 4,849 ราย ติดเชื้อ 127 ราย คิดเป็น 2.89%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 9 ก.พ. ฉีดได้ 507,602 โดส สะสมรวม 118,497,420 โดส เป็นเข็มแรก 52,611,215 ราย คิดเป็น 75.6% ของประชากร เข็มสอง 49,066,498 ราย คิดเป็น 70.5% ของประชากร และเข็มสาม 16,819,707 ราย คิดเป็น 24.2% ของประชากร