หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาฯ ห่วงยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม. พบร้อยละ 70 ของผู้ป่วยเป็นสายพันธุ์เดลตา ชี้ เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกัน เพราะสายพันธุ์นี้ติดต่อง่าย เตือนการระบาดจะเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างมาก
วันนี้ (3 ก.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “โควิด-19 วัคซีน-อัตราส่วนการพบสายพันธุ์เดลตา” ระบุว่า สายพันธุ์เดิมเริ่มแรก คือ สายพันธุ์อู่ฮั่น ระบาดในระลอกแรกของประเทศไทย ต่อมาสายพันธุ์ G ติดได้ง่ายกว่าจึงพบกระจายทั่วโลก และกลับมาระบาดที่สมุทรสาครระลอกที่ 2 น่าจะมาจากพม่า
สายพันธุ์อัลฟา หรือ อังกฤษ ติดได้ง่ายกว่า 1.7 เท่าสายพันธุ์ G จึงเข้ามาระบาดและรอบที่ 3 ที่สถานบันเทิงทองหล่อ โดยเหมือนกับสายพันธุ์เขมร
สายพันธุ์เดลตา หรือ อินเดีย เริ่มพบในคนงานก่อสร้าง ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อัลฟาอยู่ 1.4 เท่า
สายพันธุ์เดลตาติดได้ง่ายมาก ก็จะเกิดการระบาดเพิ่มขึ้นเป็นโรค 4 บนยอดของการระบาดระลอก 3
ณ ขณะนี้ที่กรุงเทพฯ จากการศึกษาวิจัยของศูนย์กว่า 700 ตัวอย่าง ในเดือนที่ผ่านมา พบว่า อัตราส่วนในการพบสายพันธุ์เดลตา สูงขึ้นเร็วมาก จนขณะนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยเป็นสายพันธุ์เดลตา ดังแสดงในรูป
สายพันธุ์เดลตาติดต่อได้ง่ายมาก ดังนั้น ในบางครั้งจะไม่รู้เลยว่ารับเชื้อมาจากที่ใด และการระบาดจะเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างมาก
การดูแลป้องกันลดการระบาด จึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ในการปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ระเบียบวินัย ใส่หน้ากากอนามัยตลอด ล้างมือใช้แอลกอฮอล์เป็นนิจ กำหนดระยะห่าง ลดจำนวนการรวมคน และต้องตระหนักเสมอว่า โอกาสที่จะติดโรคเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าไม่จำเป็นอยู่บ้านจะดีที่สุด
พร้อมแฮชแท็ก #หมอยง