หากพูดถึงศิลปินหนุ่มหล่อเสียงดี สายเอนเตอร์เทนในวงการบันเทิงไทยบ้านเรา คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ตั้ม–วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” ว่าที่บัณทิตนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต เขาเป็นศิลปินหนุ่มขี้เล่นจากเวทีเดอะสตาร์ ถึงแม้ว่างานในวงการบันเทิงจะเยอะสักแค่ไหน แต่ก็สามารถจัดสรรเวลาให้กับการเรียนได้อย่างลงตัว แม้จะใช้ระยะเวลานานกว่าปกติก็ตาม แต่ด้วยความเพียรพยายามก็สามารถมุมานะจนทำให้สามารถคว้าปริญญาตรีมาได้ และยังเลือกที่จะต่อยอดความรู้โดยตัดสินใจเรียนต่อในหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิตเพิ่มเติมอีกด้วย
จากปริญญาตรี ถึงปริญญาโท กับองค์ความรู้ด้านนิเทศศาสตร์ที่นำไปใช้
วราวุธ โพธิ์ยิ้ม นักศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเองไม่ได้กดดันตัวเองในเรื่องเรียน เพราะสาขาวิชาที่เรียนกับงานที่ทำคือเส้นทางเดียวกัน การที่เราได้ทำงานก็เหมือนกับว่าเราได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เหมือนเป็นห้องเรียนที่เพื่อนๆ ในคณะเขาไม่มีโอกาสได้ไปเรียนรู้แบบเรา เลยไม่ได้กดดันตัวเอง เรียนไปเรื่อยๆ เพื่อนำไปประกอบการทำงานของเราจริงๆ พยายามเรียนให้สนุก ไม่เครียด ไม่ได้เร่งรีบอะไรมาก จนมาถึงวันนี้ก็สามารถเรียนจบได้อย่างที่ตั้งใจ
จากการเรียนรู้ในห้องเรียน สู่การต่อยอดในการทำงานสำหรับการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานต่างๆ จากวิทยาลัย นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปรียบเสมือนการเติมเต็มองค์ความรู้ และสร้างรากฐานวิชาความรู้ทางด้านนิเทศศาสตร์ให้กับหนุ่มตั้มได้เป็นอย่างดีจนนำไปสู่การประยุกต์ใช้จริงกับงานในวงการบันเทิง
“แต่ก่อนเราทำงานหน้ากล้องอย่างเดียว เราไม่เคยรู้ว่ามุมมองของตากล้อง หรือโปรดิวเซอร์รายการเป็นอย่างไรเราไม่รู้และไม่เข้าใจในวิธีการทำงานของเขา แต่เมื่อได้มาเรียนจึงรู้ถึงวิธีการทำงานในมุมมองที่มากขึ้นซึ่งเราได้นำองค์ความรู้ในส่วนของการเรียนมาใช้ประกอบกับการทำงานของเราด้วย สามารถแสดงความคิดเห็นได้ในเรื่องที่เรารู้ ผมเองได้นำเอาประสบการณ์ทั้งจากการทำงานของและจากการเรียนรู้ในห้องเรียนมาแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการและการทำงานซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่สนุกและสามารถพัฒนาศักยภาพตัวเองไปพร้อมกันด้วย”
สำหรับการตัดสินใจเลือกเรียนต่อในระดับปริญญาโทในหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต เขาให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้ด้านการสื่อสารแบบองค์รวม และสร้างรากฐานความรู้ที่มีให้แน่นมาก“ใบปริญญา” อาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดหากแต่การนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์นั้นมีความหมายมากกว่า และเป็นสิ่งที่จะได้รับกลับมาจากการเรียนต่อในระดับปริญญาโท
“ผมอยากเรียนเพื่อหาความรู้ให้มากขึ้น เรียนรู้ให้ลึกกว่าเดิมไม่อยากเป็นแค่เป็ดที่บินได้ ว่ายน้ำได้ แต่ไม่เพอร์เฟกต์สักอย่าง และการเรียนต่อปริญญาโทในครั้งนี้ คือการเรียนเพื่อนำความรู้ไปใช้งานจริงๆสำหรับใบปริญญาผมมองว่าเป็นเรื่องรองสำหรับการเรียนเพราะที่สำคัญไปกว่านั้นคือการได้พัฒนาศักยภาพและคุณภาพในตัวเราให้มากขึ้นเป้าหมายของผมอาจไม่เหมือนคนอื่น บางคนเรียนเพื่อนำใบปริญญาไปสมัครงาน หรือนำไปสอบเลื่อนตำแหน่งงานให้สูงขึ้น แต่สำหรับผมเองซึ่งทำงานในวงการบันเทิงอยู่แล้วเป้าหมายในการเรียนอาจจะแตกต่างไปจากคนอื่นเพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการเรียนรู้อย่างมีความสุขและนำไปใช้การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ชีวิตที่ลงตัว แค่ใช้ให้เต็มที่ บาลานซ์ให้เป็น
การบาลานซ์ชีวิตในสไตล์ของ “ตั้ม วราวุธ” คือการเรียนแบบไม่กดดันตัวเอง“เอาเท่าที่เราไหว”เรียนให้มีความสุข ถึงเวลาเรียนคือเรียน เวลาทำงานก็จริงจังและเต็มที่ให้กับงานทุกครั้ง และที่สำคัญอย่าเครียดจนเกินไป ยิ่งเราเครียด กดดันตัวเองมาก เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างตั้งใจก็อาจจะทำให้ผิดหวัง เสียใจ ตัวเราเองก็จะใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุขไปด้วย ทุกวันนี้ความสุขในชีวิตของตั้มคือการได้ทำงานที่รักได้เรียนรู้ในสายงานที่ชอบ และคอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง เพียงเท่านี้ชีวิตก็แฮ้ปปี้ที่สุดแล้ว
สำหรับใครที่ชื่นชอบหนุ่มหล่อ เสียงดี ดีกรีแชมป์เดอะสตาร์คนนี้ “ตั้ม–วราวุธ โพธิ์ยิ้ม”สามารถติดตามและอัพเดทผลงานเพิ่มเติมได้ที่ IG:tumidol_ts9 และ Youtube: TUM WARAWUT