ศบค.เผยประเทศไทยวันนี้ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศและสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ยอดคิดเชื้อสะสม 3,490 ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 9 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกิน 30 ล้านรายแล้ว
วันนี้ (15 ก.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า ไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ทั้งในประเทศและสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,490 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,445 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 552 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,325 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 107 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทั่วโลกวันนี้ มีผู้ติดเชื้อสะสม 30,032,521 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 307,465 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 6,828,301 อินเดีย 5,115,893 ราย และบราซิล 4,421,686 ราย ข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือสถานการณ์ของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศในแถบเอเชีย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยในวันนี้มีจำนวนถึง 97,859 ราย ส่งผลไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีแนวตะเข็บชายแดนติดกัน เช่น บังคลาเทศ และเมียนมา เป็นต้น
สำหรับประเทศเมียนมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด เพิ่มขึ้นถึง 307 ราย ถือเป็นสถิติสูงสุดในประเทศนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดครั้งแรก และพบว่านครย่างกุ้ง เมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมา กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ ดังนั้น ประเทศไทยซึ่งมีหลายจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา หน่วยงานทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกัน เข้มงวดมาตรการป้องกันโรคโควิด 19ทั้งผู้เดินทางและเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และขอความร่วมมือประชาชนเฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่เข้าในมาชุมชน ซึ่งอาจะเป็นแรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย มีความเสี่ยงที่อาจนำเชื้อโควิด 19 เข้ามาแพร่กระจายในประเทศได้
จึงขอย้ำให้ประชาชนอย่าประมาท เนื่องจากประเทศไทยอาจยังมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการปะปนอยู่ในชุมชน การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองจากโรคโควิด 19 ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย/ หน้ากากผ้า ทุกครั้งที่ออกนอกบ้านและอยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นยังมีความจำเป็นและต้องทำให้เป็นนิสัย กรณีที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ ให้หลีกเลี่ยงการพูดคุยและหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัดคนรวมกันจำนวนมาก ไม่นำตัวเองไปสัมผัสกับความเสี่ยง และเมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ลงทะเบียน เข้า-ออก สถานที่ ในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง
ด้านสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.ยอดผู้ติดเชื้อรวม 30,032,521 ราย อาการรุนแรง 61,245 ราย รักษาหายแล้ว 21,800,057 ราย เสียชีวิต 945,072 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,828,301 ราย
2. อินเดีย จำนวน 5,115,893 ราย
3. บราซิล จำนวน 4,421,686 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 1,079,519 ราย
5. เปรู จำนวน 744,400 ราย
ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 128 จำนวน 3,490 ราย