xs
xsm
sm
md
lg

พบป่วยโควิดรายใหม่ 2 ราย เป็นคนไทยกลับจากสหรัฐฯ-กาตาร์ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2 ราย เป็นชายไทยกลับจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย และหญิงไทยกลับจากกาตาร์ 1 ราย พักในสถานที่กักกันของรัฐ โดยขณะนี้มีผู้ป่วยกำลังรักษาอยู่ 105 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่ม ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 29 ล้านคน

วันนี้ (14 ก.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่าพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 2 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐ (State Quarantine) เป็นชายไทยอายุ 23 ปี อาชีพรับจ้างสอนหนังสือ เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ถึงไทยวันที่ 5 ก.ย. เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อเมื่อ 13 ก.ย. 63 อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางกลับจากกาตาร์ เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อเมื่อ 11 ก.ย. 63

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,475 คน เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 คน และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 537 คน จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วอยู่ที่ 3,312 คน และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 105 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่เท่าเดิมที่ 58 คน


สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 29,181,952 ราย อาการรุนแรง 60,467 ราย รักษาหายแล้ว 21,027,058 ราย เสียชีวิต 928,267 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,708,458 ราย
2. อินเดีย จำนวน 4,845,003 ราย
3. บราซิล จำนวน 4,330,455 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 1,062,811 ราย
5. เปรู จำนวน 729,619 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 125 จำนวน 3,475 ราย


นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเข้มมาตรการคัดกรองและเฝ้าระวังโรคในผู้เดินทางจากต่างประเทศ ซึ่งทุกรายจะต้องเข้ากักกันในสถานที่รัฐจัดให้จนครบ 14 วัน และทำการตรวจคัดกรอง เมื่อพบว่าติดเชื้อจะส่งต่อเข้าสู่ระบบการรักษาทันที ป้องกันการแพร่กระจายเข้าประเทศ นอกจากนี้ พื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 หน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุขได้บูรณาการทำงานร่วมกัน เข้มงวดมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ในผู้ที่เดินทาง และเพิ่มการเฝ้าระวังแรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว (อสต.) สอดส่อง เฝ้าระวังแรงงานที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจนำเชื้อโควิด 19 เข้ามาแพร่กระจายในประเทศได้ และยังได้ส่งรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานลงพื้นที่จังหวัดตะเข็บชายแดนเพื่อทำการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงด้วย ทั้งนี้ ได้ส่งรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 8 – 9 กันยายน 2563 ที่โรงเรียนอิสลามศึกษา, โรงเรียนวังตะเคียน, อบต.แม่กะษา และเรือนจำ รวม 2,636 คน ผลการตรวจคัดกรองทั้งชาวไทยและต่างด้าวทั้งหมดไม่พบการติดเชื้อโควิด 19

สำหรับโรงงานและสถานประกอบการซึ่งมีทั้งแรงงานไทยและต่างด้าวทำงานอยู่รวมกันจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำแนะนำเป็นแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของโรคโควิด 19 โดยให้เจ้าของ/ผู้ประกอบการ จัดจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกายแรงงานและผู้เข้าสถานที่ทุกคน ล้างมือก่อนเข้าทำงาน สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา จัดให้เว้นระยะห่าง ทำความสะอาดพื้นที่บ่อย ๆ จัดระบบระบายอากาศที่ถ่ายเท ถ้าพบมีไข้ให้หยุดงานและไปพบแพทย์ หากมีแรงงานที่เข้ามาใหม่ต้องมีระบบการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพที่เคร่งครัดเพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นพิเศษ รวมทั้งขอความร่วมมือชะลอการนำแรงงานจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เข้ามาทำงานในขณะนี้ และไม่สนับสนุนการจ้างงานแรงงานผิดกฎหมาย

ในกรณีที่พบผู้ป่วยยืนยันหรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าสถานที่นั้นเป็นจุดแพร่เชื้อ จะต้องดำเนินการตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เช่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อทันทีภายใน 24 ชั่วโมง รวมทั้งการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มเสี่ยงที่ได้จากข้อมูลการสอบสวน ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและแรงงานปฏิบัติตนตามคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันตนเอง การ์ดอย่าตก และจัดมาตรการเฝ้าระวังเชิงรุกในโรงงาน ซึ่งหลายพื้นที่ดำเนินการได้ดี โดยมีด่านหน้าคือ อสม. อสต. และรพ.สต.ในพื้นที่ ช่วยดูแลให้คำแนะนำ ซึ่งหากไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงจะไม่มีความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิดในทุกโรงงาน หากมีข้อสงสัยสอบถามที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422


































กำลังโหลดความคิดเห็น