วันนี้ (12 ก.ย.) นายนคร ศิลปอาชา กรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กล่าวระหว่างการเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนต่อแผนการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยพร้อมร่วมกับทุกภาคส่วนในการพัฒนากำลังคนในประเทศ มุ่งสร้าง Thailand workforce development Agency เพื่อพัฒนาทักษะด้านแรงงานทั้งระบบ โดยคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยี มุ่งเน้นให้เกิดความมั่นคงทางความคิด ความสามารถ มีทักษะพื้นฐาน และทักษะเฉพาะทางในการประกอบอาชีพ ผ่านการอบรมแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในรูปแบบกองทุน โดยใช้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นเครื่องมือยืนยันคุณภาพตามมาตรฐาน
นอกจากนี้ยังหวังว่าจะสามารถดึงแรงงานนอกระบบเข้ามาสู่ในระบบด้วยกลไก Workforce Professional Qualification System หวังให้คนในอาชีพได้การรับรองตามมาตรฐานอาชีพ และมีหน่วยฝึกอบรมจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่ตอบโจทย์การพัฒนาคนสู่ตลาดแรงงานและสมรรถนะแห่งอนาคต ซึ่งการรับรองที่ว่าต้องเป็นสากล สามารถเทียบโอนประสบการณ์สู่การเรียนรู้ได้ พร้อมขยายกลุ่มอายุวัยทำงานที่เริ่มตั้งแต่ 15 ปี ไปจนถึงมากกว่า 60 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สามารถเรียนรู้พัฒนาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และทำให้สร้างเส้นทางอาชีพได้อย่างเป็นระบบ
รวมถึงการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการให้เห็นความสำคัญในเรื่องการพัฒนากำลังคน ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นระบบฐานข้อมูลกลางของตลาดแรงงาน ที่ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพมารวมตัวกัน และใช้ฐานข้อมูลนี้เพื่อการสร้างงานสร้างอาชีพ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากคนในอาชีพที่มีสมรรถนะได้ ที่สำคัญระบบคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะต้องยอมรับว่าแรงงานกลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ฉะนั้นจำเป็นต้องทำให้แรงงานเหล่านี้เข้าสู่ระบบเพื่อโยชน์ด้านการคุ้มครองแรงงาน และนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอีกด้วย
ทั้งนี้การปฏิรูปการว่างงานเป็นเรื่องสำคัญที่ควรวางแนวทางให้ชัดเจน ครอบคลุมทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษา เพิ่งจบการศึกษา รวมถึงกลุ่มแรงงานในตลาดอาชีพ สิ่งสำคัญคือส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะให้ครบวงจร และต้องเป็นการพัฒนาในแบบ สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเพิ่มสมรรถนะของคนไทยให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน และรองรับการเปลี่ยนแปลงของอนาคต ลดการเหลื่อมล้ำ และอัตราการว่างงาน ขณะเดียวกันต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดจากการ จัดหางาน เป็น “การสร้างโอกาสสร้างงาน” แทน