กรุงเทพมหานคร ประชุมการเตรียมความพร้อมการจัดโครงการ/กิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวคลองสายประวัติศาสตร์ฝั่งธนบุรี เพื่อกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในกรุงเทพมหานครหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
วันนี้ (25 ส.ค.) เวลา 09.30 น. นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมการจัดโครงการ/กิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวคลองสายประวัติศาสตร์ฝั่งธนบุรี โดยมี ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ผู้บริหารสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลผู้บริหารสำนักงานเขตตลิ่งชัน สำนักงานเขตธนบุรี สำนักงานเขตบางกอกน้อย สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ สำนักงานเขตภาษีเจริญ ผู้แทนสำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการระบายน้ำ สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง สำนักเทศกิจสำนักสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด สมาคมเรือไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา วิทยาลัยการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ สมาคมภาษาเพื่อการศึกษาและธุรกิจนำเที่ยว ภาคีเครือข่ายและผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สำนักงานเขตตลิ่งชัน
รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามนโยบายของกรุงเทพมหานครที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำ เส้นทางคลองสายประวัติศาสตร์ฝั่งธนบุรีซึ่งมีประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นเพื่อกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในกรุงเทพมหานครหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเมื่อวันที่ 14 ส.ค.63 ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวแม่น้ำประวัติศาสตร์ คลองชักพระ-คลองบางกอกใหญ่-คลองบางกอกน้อย จากท่าเรือวัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เขตบางกอกน้อย ถึงท่าเรือวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เขตธนบุรี ผ่านพื้นที่ 5 เขต ประกอบด้วย เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตตลิ่งชัน เขตภาษีเจริญ และเขตธนบุรี รวมระยะทางประมาณ 15 ก.ม. ซึ่งนำมาสู่การประชุมวันนี้เพื่อหารือพิจารณาการจัดโครงการ/กิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวคลองสายประวัติศาสตร์ฝั่งธนบุรี
ที่ประชุมในวันนี้มีมติกำหนดเส้นทางเดินเรือแบบ One Day Pass จ่ายเงินซื้อตั๋วครั้งเดียวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดวันและสามารถขึ้น-ลงเรือได้ทุกท่าเรือตลอดเส้นทาง โดยในเบื้องต้นได้กำหนดเส้นทางดังกล่าวให้มีจุดเริ่มต้นที่ท่าเรือศิริราช เขตบางกอกน้อย ปลายทางที่ท่าเรือวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เขตธนบุรี โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางจุดเริ่มต้นได้ทั้ง 2 แบบทั้งแบบไปและแบบกลับ โดยเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำจะใช้เส้นทางคลองสายประวัติศาสตร์ฝั่งธนบุรี (แม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า) ประกอบด้วย คลองชักพระ-คลองบางกอกใหญ่-คลองบางกอกน้อย ผ่านสถานที่และจุดท่องเที่ยวต่างๆ ให้เยี่ยมชม ซึ่งมอบหมายให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ประสานกับสำนักงานเขตพื้นที่ 5 เขตและภาคีเครือข่าย จัดทำเมนูแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยว โดยเรือที่ใช้ในการจัดกิจกรรมนั้นอยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ในส่วนของการแก้ปัญหาการเปิด/ปิดประตูน้ำ ขยะมูลฝอยในคลอง ปัญหาน้ำเสีย สิ่งกีดขวางการเดินเรือ ได้มอบหมายสำนักการระบายน้ำนำเสนอโครงการปรับปรุงประตูเรือสัญจรสถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ คลองมอญและคลองชักพระ เพื่อจัดสรรงบประมาณปรับปรุงประตูระบายน้ำให้มีการเปิด-ปิด สอดคล้องกับการเดินเรือท่องเที่ยวที่ผ่านประตูระบายน้ำในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และเตรียมจัดกิจกรรมจิตอาสาทำความสะอาดคลองครั้งใหญ่แบบครบวงจร ซึ่งจะมีการลงพื้นที่สำรวจเส้นทางจัดกิจกรรมในวันที่ 8 ก.ย. 63 และเปิดกิจกรรมดังกล่าวในวันที่ 18 ก.ย. 63 เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางดังกล่าวโดยร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้สำนักการระบายน้ำจัดทำโครงการ “ต่อยอดอดีต ปรับปัจจุบัน สร้างคุณค่าคลองบางกอกใหญ่ ผ่านเส้นทาง “ล้อ ราง เรือ” ซึ่งมีส่วนของการพัฒนาทำความสะอาดคู คลอง ให้เป็นโครงการ Best Service อย่างต่อเนื่องและขยายพื้นที่การทำความสะอาดให้กว้างขึ้น พร้อมบรรจุในแผนปฎิบัติราชการในปีงบประมาณต่อไป โดยมีเป้าหมายให้ขยะมูลฝอย ผักตบชวา และวัชพืชหมดไปจากเส้นทางดังกล่าวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ในส่วนของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนั้นได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง จัดทำแอปพลิเคชัน และ QR CODE เส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว และมอบหมายสำนักการวางผังและพัฒนาเมืองจัดทำแผนที่วัฒนธรรมเพื่อรวบรวมสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในรูปแบบ ชิม ช้อป ชิล ผ่านความคิดเห็นของประชาชน นอกจากนี้ สำนักการวางผังและพัฒนาเมืองได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวตามแผนที่มรดกวัฒนธรรมย่านคลองบางหลวงโครงการต่อยอดอดีต จนถึงปัจจุบัน สร้างคุณค่าคลองบางกอกใหญ่ ผ่านเส้นทาง “ล้อ ราง เรือ” ในวันที่ 12-13 ก.ย. 63 เพื่อนำการแสดงความคิดเห็นของประชาชนมาสู่ปฏิบัติ เพื่อตรวจสอบถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการท่องเที่ยวมาปรับปรุงและพัฒนา สร้างชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวในย่านดังกล่าวให้ได้รับความนิยมของชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกต่อไป