ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 13 ยังคงปิดสนามชนไก่-ซ้อมชนไก่-ชนโค-กัดปลา ถึง 31 ส.ค. สกัดโควิด-19 ระลอกใหม่ ระบุ หากเจ้าของต้องการเปิดดำเนินการ ยื่นเรื่องขอเปิดดำเนินการได้และมีแผนมาตรการป้องกันโรคนำเสนอ
วันนี้ (1 ส.ค.) ตามที่มีประกาศขยายเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร ได้ลงนามได้ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 13) ตามที่ได้มีการประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 4) ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 โดยขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 และประกาศใช้ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 นั้น
เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนด ดังกล่าวข้างต้น อันเป็นการปกป้องความมั่นคงปลอดภัยทางด้านการสาธารณสุขของประเทศ และป้องกันมิให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ที่อาจมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความ ในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 16/2563 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 จึงให้ปิดสถานที่เป็นการ ชั่วคราว และให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ดังต่อไปนี้
1. ปิดสถานที่ 1.1 สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ 1.2 สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
2. สถานที่ตามข้อ 1 ที่มีความพร้อมจะเปิดดำเนินการและให้บริการต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 8/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 และยื่นเรื่องขอเปิดดำเนินการต่อสำนักงานเขตพื้นที่ที่ตั้งอยู่เพื่อดำเนินการตรวจแนะนำ และเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เปิดดำเนินการและให้บริการต่อไป
3. สถานที่ที่ได้รับการผ่อนคลายตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 12) ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติม ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมได้ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 6) 1 พฤษภาคม 2563 ข้อ 1 ข้อกำหนด (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ข้อ 3 ข้อกำหนด (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ข้อ 2 และ ข้อ 3 ข้อกำหนด (ฉบับที่ 10) ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ข้อ 2 และ ข้อ 3 ข้อกำหนด (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 โดยผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ดังนี้
3.1 คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 2/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 3/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 4/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2563
คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 5/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตาม ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2563 คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 6/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 8/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
3.2 มาตรการป้องกันโรคตามที่กรุงเทพมหานคร กำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แนบท้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 (ยกเว้น ข้อ 1 ก. ในส่วนการจัดระบบการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่ง (บุคคล) ไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร หรือ กรณีมีระยะห่างระหว่างที่นั่ง (บุคคล) น้อยกว่า 1.5 เมตร ต้องจัดให้มีฉากกั้นระหว่างที่นั่ง (บุคคล) แต่ทั้งนี้ ระยะห่างระหว่างที่นั่ง (บุคคล) ต้องไม่น้อยกว่า 1 เมตร) มาตรการป้องกันโรคตามที่ทาง ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แนบท้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิด สถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2563
มาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการ กำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แนบท้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่ เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 10) ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 และมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการ กำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แนบท้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่ เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2563
4. สถานที่ กิจการ และกิจกรรมอื่นๆ ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด และข้อ 11 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตาม มาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 4 จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง