ศบค.เผย “ทหารอียิปต์” ติดโควิดใส่หน้ากากขณะไปห้าง พบ 27 คนรวมคนติดเชื้อไป “ห้างแหลมทอง” 11.25-14.56 น. มีคนเดินห้าง 394 คน อีก 4 คน ไป “เซ็นทรัล” 14.30-18.00 น. มีคนเดินเวลาเดียวกัน 1,488 คน ระบุสัมผัสเสี่ยงสูง 9 ราย จากโรงแรมดีวารี 7 คน คนขับรถตู้จากสนามบินไปโรงแรม 2 คน เสี่ยงต่ำ 9 คนเป็นทีมสอบสวนโรคและ ตม. เร่งส่งข้อความติดตามคนเกี่ยวข้องผ่านไทยชนะ
วันนี้ (14 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ออกไปเที่ยวห้างฯ ว่า สถานทูตได้ขออนุญาตมาไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกองทัพอากาศ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี แต่เป็นกรณีปฏิบัติโดยปกติที่มีการอนุญาตให้เข้ามาซึ่งเหมือนกับลูกเรือสายการบินทั่วไปที่เข้ามาพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ แล้วเดินทางกลับออกไป เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ลงที่สุวรรณภูมิตามปกติ แต่ไปลงที่อู่ตะเภา โดยเที่ยวบินเข้ามา 2 เที่ยวบิน คือ EGY1215 และ EGY1216 เป็นเที่ยวบินทางทหาร มีกัปตันเรือและลูกเรือรวม 31 คน โดยวันที่ 6 ก.ค.เดินทางจากไคโร ประเทศอียิปต์ มาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 7 ก.ค.เดินทางต่อมายังปากีสถาน และวันที่ 8 ก.ค.เดินทางถึงไทย โดยบริษัทสายการบินภาคพื้นประสานงานจองห้องพัก มีสถานทูตเป็นผู้เลือก กำหนดพัก 8-11 ก.ค. โดยเข้าพักโรงแรมดีวารี อ.เมืองฯ จ.ระยอง ถึงเวลา 23.00 น. เครื่องบินล่าช้า 2 ชั่วโมงจากกำหนดการ ทุกคนพักร่วมห้อง 2 คน ยกเว้นกัปตันพักห้องเดี่ยว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ค. เวลา 05.30 น. คณะเดินทางออกจากโรงแรมไปสนามบินอู่ตะเภาเพื่อไปทำภารกิจทางทหาร และเติมน้ำมันเมืองเฉิงตู บินกลับถึงไทยสนามบินอู่ตะเภาเวลา 23.30 น.ของวันเดียวกัน และกลับโรงแรมที่พักเวลา 02.00 น.ของวันที่ 10 ก.ค. ต่อมาเวลา 11.20 น.มีจำนวนหนึ่งเดินทางออกจากที่พักไปยังห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในอำเภอเมืองฯ จ.ระยอง คือ แหลมทอง และเซ็นทรัล ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง รับทราบจึงพยายามขอเข้าตรวจคัดกรองก็จะเห็นจากคลิปว่ายุ่งยากพอสมควร จนต้องประสานตำรวจ และประสานสถานทูต โดยผลตรวจคือไม่ติดเชื้อ 30 คน และผลกำกวม 1 คน จนต้องตรวจซ้ำ โดยผลออกวันที่ 12 ก.ค.ว่าติดเชื้อ แต่คณะเดินทางกลับไปวันที่ 11 ก.ค. เวลา 11.30 น.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จากการสอบสวนโดยทบทวนจากกล้องวงจรปิดโรงแรม พบว่า ลูกเรือประมาณ 3 คน ใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหสถาน ส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยติดตัวแต่ไม่ได้ใส่ โดยวันที่ 10 ก.ค. มีการเดินทางเป็น 2 คณะ คือ ลูกเรือ 27 คน รวมผู้ติดเชื้อแล้ว เดินทางเข้าไปเที่ยวซื้อสินค้าห้างแหลมทอง เวลา 11.25-14.56 น. โดยผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยขณะออกไปข้างนอก และกลุ่มลูกเรืออีก 4 คนเหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคล เพื่อไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลระยอง ช่วงเวลา 14.30-18.00 น. โดยใช้แท็กซี่คันเดิมในการรับกลับ ซึ่งติดตามคนขับแล้ว ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไม่ใช่ 1 ใน 4 ที่ไปรับไปส่ง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า หากแบ่งตามความเสี่ยงกรณีนี้ พบว่า มีกลุ่มผู้เสี่ยงสูง 9 ราย ตามสถานที่ คือ 1. โรงแรมดีวารี 7 คน เป็นผู้จัดการโรงแรม 2 คน พนักงานขาย 1 คน แม่บ้าน 4 คน ที่ทำงานประจำชั้นที่พบผู้ติดเชื้อคือ ชั้น 7 และ 8 แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โรงแรมให้หยุดงาน 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-27 ก.ค. โดยให้แยกกักตนเองในโรงแรม ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง 2. สนามบินอู่ตะเภา คือ พนักงานขับรถตู้รับส่งไปยังโรงแรม 2 คน และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 9 คน คือ ทีมสอบสวนโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง สำหรับผู้ไปห้างแหลมทองช่วงเวลาเดียวกันกับกลุ่มทหารอียิปต์ไปเวลา 11.25-14.56 น. มีคนในห้าง 394 คน ส่วนห้างเซ็นทรัลมี 1,488 คน โดยมีอีก 7 คนตรวจสอบโทรศัพท์ยังไม่ได้ทั้งสองที่ ซึ่งกรมควบคุมโรคจะติดตามเลขหมายให้ท่านเข้ามาตรวจ ถ้ามีข้อสงสัยให้มารับการตรวจได้เลย
“เราตีวงขอบเขตได้จากการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ ผู้ลงทะเบียนผ่านเวลานั้นจะได้รับการเตือน ให้ไปแจ้งแสดงตัว เพื่อเข้ารับการตรวจ โดยมีข้อความคือ ขอความร่วมมือกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน หรือติดต่อกลับ สสจ.ระยอง ถ้าต้องการรับการตรวจ สธ.ยินดี โดยเรามีรถพระราชทานไปประจำในพื้นที่เพื่อให้บริการ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว