รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เผยระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า BTS-คลองผดุงกรุงเกษม หลังการปลดล็อกเฟส 5 ประชาชนบางส่วนละเลยกับมาตรการที่รัฐกำหนดไว้ จึงขอความร่วมมือทุกคนให้มีความรัดกุมและเข้มงวดเหมือนช่วงที่ผ่านมา
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ สถานีรถไฟฟ้าพญาไท และโครงการพัฒนาเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของระบบขนส่งมวลชน ภายใต้การดูแลของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) ว่า วันนี้เป็นตรวจระบบขนส่งสาธารณะที่กรุงเทพมหานครรับผิดชอบ จำนวน 2 จุด จุดแรกตรวจระบบขนส่งรถไฟฟ้า BTS ณ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าพญาไท จากการตรวจเยี่ยมพบว่ามีความเข้มงวด และเจ้าหน้าที่มีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้จัดให้มีการเว้นระยะห่างและวัดอุณหภูมิ บริเวณชั้นล่างของสถานี เพื่อคัดกรองและจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่จะขึ้นมาชั้นบน ป้องกันการแออัด หรือยืนรวมตัวกันจำนวนมากบริเวณชานชาลา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ประจำสถานียังได้ประสานงานระหว่างกันเพื่อจำกัดจำนวนผู้โดยสารแต่ละสถานีด้วย ในภาพรวมถือว่าดำเนินการได้รัดกุมและเข้มข้น ทั้งนี้ BTS ได้แจ้งว่าขณะนี้จำนวนผู้โดยสารใกล้ถึงภาวะปกติแล้ว ซึ่งในสถานการณ์ปกติจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 800,000 เที่ยวคนต่อวัน ขณะนี้มีจำนวนผู้โดยสารกว่า 600,000 เที่ยวคนต่อวัน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศไทยมากว่า 40 วัน ทำให้ประชาชนบางส่วนละเลยกับมาตรการที่รัฐกำหนดไว้ จึงขอความร่วมมือทุกคนให้มีความรัดกุมและเข้มงวดเหมือนช่วงที่ผ่านมา
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของจุดที่ 2 เป็นการตรวจการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม ตามโครงการพัฒนาเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิ กำหนดมาตรการเว้นระยะห่างของที่นั่ง มีการทำความสะอาดเรือและบริเวณท่าเรือโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ทุกวันๆ ละ 3 ครั้ง โดยได้เริ่มกลับมาให้บริการเดินเรือเป็นปกติเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 63
ทั้งนี้ ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวนผู้ใช้บริการอาจจะยังไม่มาก แต่จากนี้ไปคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการมากขึ้น ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างต่อเรือใหม่จำนวน 7 ลำ ซึ่งเป็นเรือไฟฟ้าทั้งหมด รวมกับเรือไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม อีก 1 ลำ รวมเป็น 8 ลำ คาดว่า จะพร้อมให้บริการได้ประมาณต้นเดือน พ.ย. 63 ซึ่งปัจจุบันให้บริการเดินเรือตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. ความถี่ในการเดินเรือประมาณ 30 นาทีต่อลำ หากเดินเรือครบตามจำนวนคาดว่าความถี่ในการเดินเรือจะอยู่ที่ 15 นาทีต่อลำ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น