สสจ.ขอนแก่น ลั่นไม่ยอมความไอ้โม่งบุก รพ.กลางดึก หวังข่มขืน “พยาบาล” เผยผู้ประสบเหตุยังมีกำลังใจดี ให้หยุดพักงานจนกว่าสบายใจ ยันไม่ใช่สั่งพักงานจากการโพสต์โซเชียล ชี้ไม่มีตำหนิ แค่ห่วงเป็นดาบ 2 คม จากการรู้ตัวตนจริง
วันนี้ (6 ก.ค.) นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ขอนแก่น กล่าวภายหลังเดินทางไปยัง รพ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น หลังพบกรณีคนร้ายไม่สวมเสื้อ ใช้ผ้าคลุมศีรษะบุกเข้าไปใน รพ.ภูผาม่าน กลางดึกหวังข่มขืนพยาบาลสาวที่เข้าเวร ว่า พยาบาลผู้ประสบเหตุยังมีขวัญกำลังใจดี ตนได้กำชับหัวหน้าพยาบาล และ ผอ.รพ.ให้พยาบาลคนดังกล่าวพักผ่อนจนกว่าจะสบายใจแล้วค่อยกลับมาทำงาน ส่วนคดีความทางนิติกร รพ.จะเป็นผู้ดูแล โดยยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะไม่มีการยอมความ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว และรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง
นพ.สมชายโชติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายบุกเข้ามายัง รพ.ทางรั้วด้านตะวันตก ซึ่งเป็นรั้วลวดหนาม แต่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ขณะนี้มีการกำชับเรื่องการเพิ่มกล้องวงจรปิด เพิ่มเวรยาม โดยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) หมั่นเดินตรวจตรา และขอเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจถี่ขึ้น นอกจากนี้ พยาบาลผู้ประสบเหตุได้เสนอแนะให้มีการปรับปรุงประตูทางเข้า ให้มีการกำหนดเวลาเยี่ยมที่ชัดเจน เมื่อถึงเวลาประตูจะปิดไม่ให้คนภายนอกเข้ามา รวมถึงทุกๆ 4 โมงเย็น ควรมีการประชุมญาติที่เฝ้าไข้ให้ทราบถึงการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้นและให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในพื้นที่ด้วย
นพ.สมชายโชติ กล่าวว่า ส่วนกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้บริหาร รพ.มีการตำหนิพยาบาลผู้ประสบเหตุ ที่นำคลิปวิดีโอไปโพสต์โซเชียลมีเดีย และสั่งพักงาน ไม่เป็นความจริง เพราะการให้หยุด คือ ให้น้องได้พักผ่อนจนสบายใจแล้วค่อยกลับมาทำงาน ส่วนการโพสต์โซเชียลมีเดีย เราไม่ได้ห้าม เพียงแต่มีความห่วงใย 2 เรื่อง คือ 1. น้องใช้ชื่อจริงไปโพสต์เรื่องนี้อาจจะเป็นดาบ 2 คม ทำให้มีคนทราบ และรู้ตัวตนของน้อง หากเจ็บแค้นอาจจะทำให้ถูกทำร้ายได้ 2. การโพสต์อย่าลืมว่ามีเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากมีการนำเรื่องใน รพ.ไปโพสต์แล้วเกิดกระทบบุคคลอื่นๆ แล้วถ้าคนนั้นไปร้องตาม พ.ร.บ.คอมพ์ เราจะช่วยเหลือไม่ได้ หรือหากร้องมาที่ รพ. อาจจะทำให้ถูกสอบสวนวินัยอีก เพราะฉะนั้นเราถึงห่วงใย หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะมีการรายงานตามระเบียบราชการเพื่อแก้ปัญหากันอยู่ อย่างกรณีนี้ก็มีการส่งแจ้งความ มีการส่งคลิปหลักฐานต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการ ซึ่งตนได้พูดคุยและแสดงความห่วงใย น้องพยาบาลก็เข้าใจดี ตอนนี้ก็มีกำลังใจ