xs
xsm
sm
md
lg

หิ้วตัว “บรรยิน”พร้อมพวกฝากขัง สมุนสารภาพหมดเปลือก ซัด"บรรยินเผา"เองศพพี่ชายผู้พิพากษาในไร่เมีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



กองปราบฯ นำตัว บรรยินพร้อมพวกฝากขังศาลอาญาทุจริตฯ พบจุดเผาศพพี่ชายผู้พิพากษา เป็นไร่ของภรรยา “บรรยิน” ลูกน้องรับสารภาพหมดเปลือกแผนฆาตกรรม ซัด บรรยินลงมือเผาเองในไร่เมีย ตร.ไม่หนักใจแม้ไม่เจอศพใช้นิติวิทยาศาสตร์ดีเอ็นเอเปรียบเทียบ




วันนี้ (25 ก.พ.) ที่กองปราบปราบ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกองปราบปรามและชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ปิดล้อมตรวจค้น 21 จุด ในจังหวัดนครสวรรค์ และกรุงเทพมหานคร เพื่อคลี่คลายคดีการหายตัวไปของนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ เจ้าของสำนวนคดีปลอมแปลงเอกสารโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด กว่า 300 ล้านบาท หลังถูกกลุ่มคนร้ายข่มขู่ น.ส.พนิดาให้ตัดสินยกฟ้องคดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ น.ส.กัณฐณา ศิวาธนะพล หรือน้ำตาล และ น.ส.อุรชา พรหมา หรือป้อนข้าว ตกเป็นผู้ต้องหา โดยจากปฏิบัติการครั้งนี้ชุดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี, นายมานัส ทับนิล อายุ 67 ปี, นายณรงศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 49 ปี, นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข อายุ 34 ปี, นายชาติชาย เมณฑ์กุล อายุ 31 ปี และนายธงชัย วจีสัจจะ หรือ ส.จ.อ๊อด อายุ 62 ปี ในความผิด 6 ข้อหา โดยผู้ต้องหาบางส่วนรับสารภาพว่าทำร้ายนายวีรชัยจนเสียชีวิตแล้วเผาศพนำชิ้นส่วนไปทิ้งแม่น้ำ

ต่อมาเมื่อเวลา 05.30 น. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.เสวก บุญจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ไปเบิกตัวนายชาติชาย เมนฑ์กุล และนายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ที่ สน.ห้วยขวาง จากนั้นได้มาเบิกตัวนายณรงศักดิ์ ป้อมจันทร์ ที่ สน.สุทธิสาร หลังกองปราบปรามได้แยกผู้ต้องหาคุมขังตามโรงพักต่างๆ เพื่อนำตัว 3 ผู้ต้องหาในแก๊ง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่ให้การรับสารภาพในคดีอุ้มฆ่าเผานั่งยางนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ

โดยจุดแรกที่หน้าบ้านเลขที่ 9/13 ซอยรัชดาภิเษก 33 แขวงและเขตจตุจักร กทม. เป็นอาคารสูง 4 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด โดยจุดนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยืนยันว่าเป็นบ้าน พ.ต.ท.บรรยิน ก่อนเกิดเหตุได้มีการมาวางแผนที่บ้านนี้ โดยในวันที่มีการวางแผนนั้น นายมานัส ทับนิล ได้ขับรถพานายประชาวิทย์ และนายชาติชาย ซึ่งเป็นคนที่นายธงชัย วจีสัจจะ หรือ ส.จ.อ๊อด จัดหามาให้ เพื่อมาพบ พ.ต.ท.บรรยิน และนายณรงศักดิ์ ที่บ้านดังกล่าว โดย พ.ต.ท.บรรยินได้บอกทั้ง 5 คนว่ามีงานให้ทำเป็นเรื่องอุ้มคนแก่ จากนั้น พ.ต.ท.บรรยินได้จัดหาชุดและหมวกให้กลุ่มผู้ต้องหา ก่อนจะแยกย้ายกันไป

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามไปยังจุดที่ 2 บริเวณตรงข้ามศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซอยเจริญกรุง 63 แขวงเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพฯ โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาดักรออุ้มตัวนายวีรชัยขึ้นรถเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยวันดังกล่าว พ.ต.ท.บรรยินใส่เครื่องแบบตำรวจสวมหมวกกันน็อก ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ รถดังกล่าวมีนายณรงศ์ศักดิ์ นายชาติชาย และนายประชาวิทย์ ร่วมนั่งอยู่ด้วย โดยทั้งสามคนสวมชุดที่ พ.ต.ท.บรรยินจัดเตรียมไว้ให้ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาว ใส่หน้ากากอนามัย สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า


เมื่อมาถึงหน้าศาล และพบนายวีรชัย นายณรงค์ศักดิ์รับว่าเป็นคนล็อกตัวนายวีรชัย ก่อนที่นายชาติชายเป็นคนดันตัวเหยื่อให้ขึ้นรถ ซึ่งนายณรงศ์ศักดิ์นั่งหน้าบริเวณข้างคนขับ โดยมีนายประชาวิทย์ และนายชาติชาย นั่งประกบผู้ตายไว้ จากนั้นได้เอาผ้าเทปปิดปาก ก่อนนำถุงผ้าคลุมศีรษะผู้ตาย โดยระหว่างทางได้มีการโทรศัพท์ข่มขู่ผู้เสียหาย และมีการปรับเบาะที่นั่งในลักษณะเอนนอนก่อนทำร้ายร่างกายนายวีรชัยโดยต่อยที่สีข้าง จากนั้นก็ได้ขับรถมุ่งหน้าเส้นทางถนนพระราม 5, บางบัวทอง-สุพรรณบุรี เพื่อมุ่งหน้าไป จ.นครสวรรค์ โดยระหว่างทางพี่ชายผู้พิพากษาเสียชีวิต ทำให้แผนของคนร้ายจากเดิมที่ต้องการกดดัน ต้องเปลี่ยนเป็นการอำพรางคดี จากนั้นนายมานัสได้ขับรถมาถ่ายคนจากรถของ พ.ต.ท.บรรยิน และทำหน้าที่ขับรถนำเพื่อดูว่ามีการตั้งด่านตามเส้นทางหรือไม่


อย่างไรก็ตาม การชี้จุดใช้เวลาไม่นาน ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปยังกองปราบปรามเพื่อนำไปรวมกับผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์, นายมานัส ทับนิล และนายธงชัย วจีสัจจะ ที่ยังคงยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ


ต่อมาเวลา 08.00 น. นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ และนายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาเเละลูกชายของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อเข้าเยี่ยม พ.ต.ท.บรรยิน โดยการเข้าเยี่ยมครั้งนี้เป็นการเยี่ยมก่อนที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะคุมตัว พ.ต.ท.บรรยินพร้อมพวกรวม 6 คน ไปขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังเป็นผัดแรก ท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว

โดยนางวราภรณ์กล่าวภายหลังจากการเข้าเยี่ยม พ.ต.ท.บรรยินว่า ได้เข้าไปหารือกับสามีกรณีจะชี้แจงความบริสุทธิ์ของครอบครัวในช่วงวันเวลาเกิดเหตุ ตนเห็นมีสื่อบางสำนักมีการนำเสนอข้อมูลว่าในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ วันเกิดเหตุมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายอยู่ในงานศพพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาบางคนก็มีพยานยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุในวันดังกล่าวเช่นกัน ยอมรับว่าข้อมูลดังกล่าวทำให้ตนและครอบครัวเองก็พยายามจะขอข้อมูลในส่วนนี้เพื่อนำมาประกอบกับการแสดงความบริสุทธิ์ของสามี สำหรับรายละเอียดอื่นๆ พ.ต.ท.บรรยินอยู่ระหว่างพิจารณาและหารือว่าจะบอกข้อมูลใดกับสื่อได้บ้างหรือไม่

ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.ระบุว่า แม้ว่าตำรวจจะยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต แต่ผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ของชิ้นส่วนกระดูกที่พบก็เพียงพอในการดำเนินคดีแล้ว

ต่อมาเวลา 12.40 น. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป พ.ต.อ.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน กองปราบปราม คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ออกจากห้องคุมขังภายในอาคารกองปราบปราม เพื่อไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผัดที่ 1 โดยทาง พ.ต.ท.บรรยินมีสีหน้ายิ้มแย้ม และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เช่นเดียวกันกับผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

มีรายงานว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงสายของวันนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายให้การรับสารภาพ มีเพียง พ.ต.ท.บรรยินที่ยังคงให้การปฏิเสธ โดยคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย สอดรับกับข้อมูลและพยานหลักฐานที่พบตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่แห่งหนึ่งในตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ที่พบเศษโครงกระดูกจำนวนกว่า 20 ชิ้น ที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม บางส่วนแตกละเอียดผสมกับกองขี้เถ้าที่ถูกเผาไหม้ รวมถึงยังพบแหวนที่มีลักษณะพิเศษคือรูปร่างคล้ายหัวเต่า และหัวเข็มขัดสี่เหลี่ยมที่ยังเผาไหม้ไม่หมดที่เชื่อว่าเป็นของผู้ตาย ตกหลงเหลืออยู่ในบริเวณจุดนี้ ทั้งยังมีเศษยางและขดลวดที่ถูกนำมาทิ้งไว้ด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานไปเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอเปรียบเทียบแล้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทางตำรวจกองปราบปรามได้นำอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน มาบินเพื่อพิสูจน์ทราบหาจุดเผาศพในพื้นที่บริเวณเขาใบไม้ โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้างรกร้าง และพื้นที่บางส่วนมีเล้าไก่ แอ่งน้ำ กระทั่งพบจุดเผาศพ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากไร่ของนางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน










กำลังโหลดความคิดเห็น