ศบค.ห่วงกิจการยังลงทะเบียนไทยชนะน้อยมาก แค่ 2.59 แสนร้าน ทั้งที่เปิดกิจการเฟส 5 มีความเสี่ยงสูง ต้องลงทะเบียนก่อนเปิดบริการ หวังต้องลงทะเบียนถึง 4-5 แสนร้าน เผย สถานบันเทิงยังร่วมมือดี เว้นระยะห่าง แบ่งพื้นที่ เหลือระวังเรื่องการสัมผัส กินดื่มร่วมกัน เหตอาจทำให้ติดเชื้อได้ ขอทุกคนร่วมมือ เพื่อไม่ต้องติดเชื้อจนสั่งปิดกันอีก
วันนี้ (3 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ว่า ขณะนี้มีกิจการกิจกรรมลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ 2.59 แสนร้าน ถือว่ายังต่ำมาก เพราะถ้าตอนนี้เราบอกว่ากิจการที่จะเปิดในช่วงนี้ ซึ่งเป็นระยะที่ 5 ล้วนแต่เป็นกิจการกิจกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงเกิดติดเชื้อ เราคาดหมายว่า ท่านจะต้องลงทะเบียนไว้ก่อน ซึ่งไม่ยากเลย ดังนั้น ตัวเลข 2.59 แสนร้าน จึงควรจะเป็น 3 แสน 4 แสน 5 แสนร้านขึ้นมา จะทำให้เรามั่นใจในระบบ เป็นโครงข่ายที่เมื่อถ้ามีการติดเชื้อจะเข้าไปกำกับดูแลได้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากการลงตรวจตราของฝ่ายมั่นคง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำทีมลงตรวจด้วยตัวเอง พบว่า ส่วนใหญ่สถานบันเทิงทั้งหลายให้ความร่วมมือดี ชื่นชมทุกแห่ง โดยส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่ยังมีประเด็นปลีกย่อยที่ไปตรวจเจอ บางแห่งยังเสิร์ฟเหล้าบ่อยๆ กันอยู่ ก็จะต้องมีการสัมผัสกันอยู่เรื่อยๆ ต้องระมัดระวัง หรือภาพของการนั่งห่างกันจะต้องเกิดขึ้น เรื่องของการทำความสะอาดบ่อยๆ ควรจะต้องมี ด้านเจ้าของกิจการร้านค้า ถ้าต่อไปเข้ามาตรวจ ต้องขอดูเลยว่ามีแอปพลิเคชันผู้พิทักษ์ไทยชนะหรือไม่ เพื่อป้องกันการแอบอ้าง จะได้สอดคล้องเป็นไปด้วยกัน ทั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่มีแอปพลิเคชันไทยชนะ 3%
เมื่อถามว่าจะมีการหยุดยาว และมีการผ่อนคลายระยะ 5 ที่เป็นกิจการเสี่ยงสูง ต้องคุมเข้มหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นข้อห่วงใย และพูดไปแล้วผับบาร์คาราโอเกะนั้น เกือบทุกประเทศที่ระบาดรอบ 2 ตรงนี้เป็นต้นตอ หลายคนวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องลงทะเบียนจะไปด้วยกันได้หรือ ขอย้ำว่า ทุกเรื่องที่เราคิดก็เข้าใจเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่การควบคุมโรคก็เป็นภารกิจรวมกันทั้งชาติ เหมือนการใส่หน้ากาก เราผ่อนคลายให้ก็หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ ต่างคนต่างได้ในเรื่องที่ทำให้เราเห็นจุดร่วม ท่านก็เปิดกิจการ คนต้องการไปสังสรรค์ก็มีโอกาส แต่ทุกขณะจิต และสติท่านต้องมีว่าเราต้องเที่ยวอย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้ป่วย หรือไม่ต้องมีการปิดกิจการรอบ 2-3 เหมือนอย่างต่างประเทศ
“ต้องขอแรงทุกท่านช่วยกัน ก็ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปคุมเข้ม ถ้าทำได้อย่างดี ก็จะผ่านระยะที่ 5 ไปได้ ยิ่งเราทำดีเท่าไรต่างชาติก็ยิ่งอยากเข้ามา ซึ่งนักธุรกิจแจ้งความประสงค์มากกว่า 8 พันคนของญี่ปุ่นอยากจะเข้ามา ถ้าเข้ามาแล้วมั่นใจระบบควบคุมโรคของเรา เราอาจจะแตกต่างจากคนอื่น แต่ผลออกมาเราดีกว่าเขา ถ้าผับบาร์คาราโอเกะร่วมมืออย่างนี้ ไม่ต้องกังวลชุดข้อมูลที่เก็บไป เพราะทุกอย่างเป็นความลับ แม้ติดโรคก็เป็นความลับ จะมีเพื่อติดตามกำกับควบคุมโรคเท่านั้น” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวและว่า ขอบคุณกิจการที่แบ่งพื้นที่ มีระยะห่างพอสมควร เหลือแค่เรื่องการสัมผัสวัสดุอุปกรณ์ทั้งหลาย ต้องระวังเรื่องแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่ร่วมกัน ดื่มด้วยกัน ตักอาหารจานเดียวกัน เพราะจะทำให้ติดได้