ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่มาช้านาน บ่อยครั้งที่ถูกมองว่าเป็นความโชคร้ายที่ต้องพบเจอเรื่องดังกล่าวจนต้องทุกข์ทนกับความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจซึ่งอาจติดตัวไปตลอดชีวิต แต่เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กๆในการป้องกันตัวเองจากความโชคร้ายได้หากเรียนรู้ถึงสาเหตุและวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้
“พีโดฟิเลีย” (Pedophilia) หากแปลตามตัวคือ รักเด็ก แต่ในที่นี้จะมีความหมายในทางลบที่บ่งบอกถึงภาวะความผิดปกติทางจิตของตัวบุคคลที่เป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก จึงเป็นโรคทางจิตเวชที่ผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้ใหญ่มักเกิดความรู้สึกเร้าอารมณ์ทางเพศเมื่อได้เห็นหรือสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กที่ยังมีอายุไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ โดยทั่วไปหมายถึงเด็กที่อายุไม่เกิน 13 ปี แต่กลับไม่มีความต้องการทางเพศหรือเกิดความรู้สึกหลงใหลและมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่หรือคนในวัยใกล้เคียงกัน
ความผิดปกติทางจิตในลักษณะดังกล่าวมีความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ในรายที่มีอาการไม่มากมักสัมพันธ์กับการควบคุมอารมณ์และการยับยั้งชั่งใจที่ทำได้ดี สามารถใช้ชีวิตและมีความสัมพันธ์ทางเพศได้ตามปกติ แต่มักมีจินตนาการที่นึกถึงความสัมพันธ์กับเด็กแล้วทำให้เกิดความตื่นเต้นและพึงพอใจ ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มที่มีอาการรุนแรงจะไม่สนใจและไม่สามารถมีความสุขทางเพศกับคนในช่วงวัยเดียวกันได้เลย โดยเฉพาะในรายที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ก็มีความเสี่ยงที่จะกระทำการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กได้มากขึ้น
ประเด็นสำคัญคือเป็นเรื่องที่แยกแยะได้ยากว่าใครบ้างที่มีความผิดปกติ เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนมากสามารถปกปิดอาการไว้ได้นานแต่เมื่อมีโอกาสอยู่กับเด็กโดยลำพังก็แสดงพฤติกรรมออกมาได้โดยไม่คาดคิดมาก่อน แต่ในหลายกรณีก็อาจพิจารณาได้จากการมีพฤติกรรมเลี้ยงดูเด็ก โดยที่ผู้ป่วยจะพยายามหาโอกาสเข้ามาทำความรู้จักและมีการติดต่อสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กและผู้ปกครองจนมีความสนิทสนมคุ้นเคยและเกิดความไว้วางใจ สามารถเข้าออกภายในบ้านหรืออยู่กับเด็กโดยลำพังได้จนเป็นเรื่องปกติ
พฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในเด็กจึงมักเกิดจากวิธีการดูแลเด็กของตัวคุณพ่อคุณแม่เองที่เปิดช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาใกล้ชิดกับเด็กมากจนเกินไป โดยพฤติกรรมในการล่วงละเมิดจะมีตั้งแต่การหาโอกาสอยู่กับเด็กโดยลำพังหรือพาไปเที่ยวดูแลซื้อของให้เพื่อได้ใกล้ชิดสัมผัสโอบกอดหรือลูบไล้ตัว มีการใช้คำพูดชื่นชมรูปร่างหน้าตา ให้ดูรูปถ่ายและข้อความลามกเกี่ยวกับการร่วมเพศ ใช้มือสัมผัสบริเวณของสงวนเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของตัวเองไปจนถึงการร่วมประเวณีกับเด็ก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นิยมเรียกโรคนี้ว่า “โรคใคร่เด็ก”
สำหรับสาเหตุของความผิดปกติทางจิตที่ทำให้เป็นโรคใคร่เด็กนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งผลที่เกิดจากวิธีการเลี้ยงดูของครอบครัวและประสบการณ์ที่ไม่ดีในวัยเด็กที่ทำให้เกิดความเครียดและกดดันหรือมีความฝังใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนมีความบกพร่องในจิตใจ มีจิตใจผิดปกติที่ต้องการความรู้สึกแปลกใหม่และท้าทาย มีความเข้าใจว่าเด็กไม่สามารถต่อสู้ขัดขืนได้เหมือนผู้ใหญ่ มีความรู้สึกว่าเด็กนั้นมีความสะอาดบริสุทธิ์สามารถร่วมประเวณีได้อย่างปลอดภัย หรือแม้แต่มีปมด้อยในเรื่องทางเพศกับผู้ใหญ่ด้วยกัน
เมื่อเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเจาะจงได้ว่าคนที่เข้ามาใกล้ชิดกับลูกของเรามีความผิดปกติเป็น Pedophilia หรือไม่นั้น สิ่งที่ทำได้คือการหาวิธีรับมือและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดการล่วงละเมิดทางเพศให้ได้ผลดีมากที่สุด โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถพิจารณาทำตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อดังต่อไปนี้
1.ไม่ระแวงแต่ให้ระวัง – โดยทั่วไปเรามักจะเพิ่มความระแวดระวังต่อคนที่ไม่รู้จักหรือคุ้นเคยโดยเฉพาะคนที่มีหน้าตาและบุคลิกการแต่งกายที่ดูไม่น่าไว้วางใจ และผ่อนคลายลงกับคนรู้จักใกล้ชิดหรือแม้แต่คนที่มีบุคลิกการแต่งกายที่ดี ทั้งที่ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มใดก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจกระทำความผิดที่คาดไม่ถึงได้หากโอกาสอำนวย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องไม่ประมาทในทุกสถานการณ์ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีความหวาดระแวงกับทุกๆคน
2.ไม่โยนภาระให้กับเด็ก – คุณพ่อคุณแม่พึงต้องระลึกไว้เสมอว่าหน้าที่สำคัญของตนเองคือการดูแลเอาใจใส่ลูกอย่างใกล้ชิด โดยไม่คิดคาดหวังเอาเองว่าเป็นหน้าที่ที่เด็กจะต้องเรียนรู้และดูแลระมัดระวังตัวเองให้มีความปลอดภัย แม้จะสามารถฝึกฝนทักษะการดูแลตัวเองให้กับลูกได้แต่ก็ต้องทำควบคู่ไปกับการติดตามเพื่อให้รู้ว่าเด็กทำกิจกรรมอะไรกับใครบ้าง รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อคอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมของบุคคลที่ไม่หวังดี
3.เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด – เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าใครๆก็รักและอยากแสดงความชื่นชมในตัวเด็ก ทั้งโดยการหยอกล้อ โอบกอดหรือหอมแก้ม แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าถ้าคนที่จะสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กได้ควรจะมีแต่คุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดกันเท่านั้น รวมทั้งจำเป็นต้องสนับสนุนให้เด็กมีความมั่นใจและไม่รู้สึกว่าเป็นความผิดหรือเป็นการเสียมารยาทเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนอื่น
4.แนะนำวิธีการรับมือ – คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องสร้างความรู้และความเข้าใจในสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเป็นอันตรายแก่ตัวเด็ก รวมถึงวิธีรับมือกับภัยคุกคามทางเพศในลักษณะต่างๆ โดยการหยิบยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือคำพูดที่ล่อแหลมและซักซ้อมความเข้าใจผ่านการจำลองสถานการณ์ซึ่งจะทำให้เด็กซึมซับและจดจำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูกและสามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างเหมาะสม
5.สร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว – ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูกเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่จะพาทุกคนในครอบครัวหลีกหนีจากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กได้ เนื่องจากเด็กจะเกิดความรู้สึกไว้วางใจและมั่นใจว่าไม่ว่าจะเจอกับสิ่งไม่ดีใดๆก็ตาม คุณพ่อคุณแม่จะสามารถเป็นที่พึ่งให้ได้เสมอ ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายที่จะเปิดใจพูดคุยได้ทุกเรื่อง ซึ่งจะช่วยให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างทันท่วงที
Pedophilia หรือโรคใคร่เด็ก เป็นชื่อที่ต้องรู้เท่าทันซึ่งจะทำให้เข้าใจได้ว่าการรับมือกับการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กนั้นไม่จำเป็นต้องหวาดระแวงและพาตัวออกห่างจากทุกคนที่เข้ามาในชีวิต แต่สามารถระวังป้องกันได้ด้วยความไม่ประมาทและการสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวเป็นสำคัญ