โฆษก ศบค.แจง Travel Bubble ยังไม่ได้ข้อยุติ เตรียมเคาะสัปดาห์หน้า ยันหากเปิดจับคู่ประเทศ ยังไม่ใช่เพื่อท่องเที่ยว แต่เป็นกลุ่มคนทำงาน-เมดิคัล ฮับ ชี้ ไม่ต้องเข้ามามาก แค่ 2-3 หมื่นคน ควบคุมติดตามได้ มีพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสูง
วันนี้ (19 มิ.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีข้อกังวลการเตรียมเปิด Travel Bubble หรือจับคู่ประเทศเดินทาง หากเกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้นมาอีก จะได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่ ว่า หลายคนกังวลใจ เพราะข่าวจากต่างประเทศก็ยังเจอผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่กันเป็นแสนรายต่อวัน ถ้าเราจะเปิด Travel Bubble จะเป็นอย่างไร ซึ่งขอย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ และขอชี้แจงความเข้าใจให้ตรงกันว่า คำว่า Travel Bubble หลายคนตีความว่า คือ การท่องเที่ยว ต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดินกันจำนวนมาก ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ แต่ Travel หมายถึงการเดินทาง คงไม่ใช่ภาพนักท่องเที่ยวเข้ามากันเป็นแสนเป็นล้านคนต่อปี แต่จะพิจารณาในกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเพื่อกิจการกิจกรรมในเชิงดันเศรษฐกิจให้บ้านเราสูงขึ้น ซึ่งแม้การท่องเที่ยวจะช่วยเศรษฐกิจดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่ยังมีรูปแบบอื่นที่ทำให้เศรษฐกิจดันขึ้นไปได้อีก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ถ้า ผอ.ศบค.จะอนุญาต Travel Bubble จะพิจารณาใน 2 กลุ่มก่อน ซึ่งยังไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไป คือ 1. กลุ่มที่มีใบอนุญาตทำงาน เช่น นักธุรกิจ แรงงานมีฝีมือเชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งกลุ่มที่มีใบขออนุญาตทำงานก็ 2 หมื่นกว่าคนแล้ว ยังรวมไปถึงครูโรงเรียนนานาชาติ 700-800 คน นักเรียนที่อยากเข้ามาอีกก็เป็นหลักพันคน กลุ่มนี้ไม่ต้องมาก แต่เข้ามาแล้วขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมได้ เช่น ขับเคลื่อนกิจการกิจกรรมของเขาได้ โรงงานก็อาจเปิดได้ คนงานก็มีงานทำ เกิดการหมุนเวียนขึ้นมา แค่เข้ามาประมาณ 2-3 หมื่นคน เราจัดการดูแลได้
2. คนต่างชาติที่เข้ามารับการรักษาในประเทศไทย เนื่องจากไทยเป็นเมดิคัล ฮับ ของเอเชีย เรามีแพทย์ที่รักษาเก่ง มีหลากหลาย รพ.ดูแลคนไข้ได้ดี การเดินทางมารับการรักษาก็สามารถผลักดันทางเศรษฐกิจได้สูง ติดตามตัวบุคคลได้ และมารักษาสุขภาพก็ต้องไม่ติดโรคกลับไปหรือเอาเชื้อโรคมาให้คนอื่น เพราะกลุ่มที่ดูแล คือ บุคลากรทางการแพทย์
“2 กลุ่มนี้น่าจะได้รับการพิจารณาก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ อย่าเพิ่งไปมองว่าเป็นการท่องเที่ยวเข้ามาขวักไขว่ แต่มีทางนี้เกิดขึ้นได้ด้วย และมั่นใจว่า ศบค.จะดูในเรื่องต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ ให้ทีมต่างๆ ไปศึกษาอย่างดี ก่อนนำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า ถ้าเรื่องต่างๆ เรียบร้อยดีคงเห็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่ง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว