xs
xsm
sm
md
lg

เผยข้อมูล 186 รพ.สังกัด สธ.เรียกรับเงินบริษัทยา “ปลัดสุขุม” รับลูกพร้อมตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิชาการอิสระ สำรวจผู้แทนขายยา พบข้อมูล รพ.สังกัด สธ.เรียกรับเงินทอน 5% เพิ่มขึ้น เผย มี.ค. 62 เรียกรับ 12 แห่ง พ.ย. 62 เพิ่มเป็น 186 แห่ง แบ่งเป็น รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป 22 แห่ง ส่วน รพ.ชุมชน เรียกรับ 164 แห่ง ชงกรมบัญชีกลางจ่ายเงินตรง ตัดตอนผู้แทนยา-รพ. ด้านปลัด สธ.รับลูกพร้อมตรวจสอบ

วันนี้ (9 มิ.ย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เชิญนายมนู สว่างแจ้ง นักวิชาการอิสระ ผู้เคยทำงานคลุกคลีกับบริษัทยาและโรงพยาบาล บรรยายเกี่ยวกับการรับเงินบริจาคบริษัทยา โดยนายมนูกล่าวถึงผลการสำรวจโรงพยาบาลที่รับเงินบริจาคจากบริษัทยา 5% ว่า จากการเก็บข้อมูลด้วยการสอบถามตัวแทนจำหน่ายยาเกี่ยวกับการประสานงานขายยากับโรงพยาบาลในสังกัด สธ.โดยไม่ระบุชื่อโรงพยาบาล พบว่า หลังจากมีระเบียบเรื่องการห้ามรับเงินบริจาค 5% ที่เชื่อมโยงเป็นการเรียกเก็บเงินนั้น ในช่วง มี.ค. 2562 มีการเรียกรับเงินลดลง จากการสำรวจโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) รวม 786 แห่ง พบมีการรับเงินรวม 12 แห่ง ไม่รับเงิน 774 แห่ง แบ่งเป็น รพศ./ รพท. รวม 116 แห่ง พบรับเงิน 2 แห่ง ไม่รับเงิน 114 แห่ง ส่วน รพช. สำรวจ 670 แห่ง รับเงิน 10 แห่ง ไม่รับเงิน 660 แห่ง


นายมนูกล่าวว่า ต่อมา พ.ย. 2562 พบมีการเรียกรับเงินเพิ่มขึ้น โดยทั้ง รพศ./รพท. และรพช. พบเรียกเก็บเงินรวม 186 แห่ง และไม่รับเงิน 600 แห่ง แบ่งเป็น รพศ./รพท. รับเงินเพิ่มขึ้นเป็น 22 แห่ง ไม่รับเงิน 94 แห่ง ขณะที่ รพช.พบรับเงินเพิ่มขึ้นเป็น 164 แห่ง ไม่รับเงิน 506 แห่ง หรือมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มกลับมาราว 23.70% ซึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยน ผอ.รพ.ใหม่ หรือละเลยกฎระเบียบหรือไม่

“วิธีการเรียกรับนั้น แม้ระบบจัดซื้อจัดจ้างเข้มงวดขึ้น แต่จะมีการคุยกับบริษัทยาว่า จะจ่าย 5% ได้หรือไม่ และจะระบุว่า หากไม่จ่าย เราก็ไม่จ่ายเงินค่ายา สิ่งเหล่านี้บริษัทยาก็ไม่อยากจะทำ เพราะกฎหมาย ป.ป.ช.ระบุว่า หากพนักงานขาย หรือผู้แทนยาไปติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐจะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท” นายมนู กล่าวและว่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ตนเสนอว่า สธ.และกรมบัญชีกลางควรหารือร่วมกัน ให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้จ่ายเงินค่ายาและเวชภัณฑ์ตรงไปยังบริษัทยา เพื่อลดการมาประสานระหว่างผู้แทนจำหน่ายยากับทาง รพ.

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าว สธ.ได้รับเรื่องและพร้อมจะตรวจสอบทั้งหมดว่ามีที่ไหนอย่างไร ตั้งแต่ตนรับตำแหน่งก็ยึดนโยบายเรื่องความโปร่งใส ปลอดทุจริต การรับเงินบริจาคลักษณะนี้ถือว่าผิดระเบียบ ต้องมีการตรวจสอบ ที่ผ่านมาก็เคยให้ข่าวไปแล้วว่า ได้มีการสอบสวนวินัยผู้บริหารระดับสูงที่มีความผิดประเด็นทุจริตทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งพัวพันชัดเจนและดำเนินการไปแล้ว แต่คงไม่เอ่ยชื่อหรือเหตุการณ์

เมื่อถามว่า ที่มีการลงโทษผู้อำนวยการไป 6 คน เกี่ยวกับเงินบริจาคหรือไม่ นพ.สุขุมกล่าวว่า ไม่ขอพูดถึง ส่วนที่เหลือก็อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ แต่ขอไม่พูดรายละเอียด

เมื่อถามกรณีข้อมูลพบการรับเงินในส่วนของ รพศ./รพท. และรพช.จะเปิดทางให้บุคลากรที่มีข้อมูลยื่นบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนด้วยหรือไม่ นพ.สุขุมกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมีคนร้องเรียน เราก็ทำงานเชิงรุกลงไปตรวจสอบอยู่แล้ว และจากเดิมเคยดูงบบำรุง งบประมาณ แต่จะดูงบสวัสดิการ งบมูลนิธิ จะไปดูให้มากขึ้นว่า นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามความตั้งใจของผู้บริจาคด้วยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ฝ่ายตรวจสอบภายในก็รับนโยบายไป

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัด สธ.กล่าวว่า จริงๆ ยื่นมาได้ และเราจะส่งข้อมูลให้ตรวจสอบภายในดำเนินการ ไม่ต้องกังวล และได้ส่งข้อมูลให้ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และผู้ตรวจราชการ สธ.แล้ว ให้ไปกำกับดูแล ซึ่งไม่ใช่แค่ข้อมูลจากนายมนู ยังมีคู่มือในการดำเนินที่ถูกต้องตามระเบียบด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น