หลายคนอาจเข้าใจว่าการถ่ายเป็นเลือด เป็นอาการของโรคริดสีดวงทวารเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ทันคิดว่านี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะฉะนั้นต้องหมั่นสังเกตอาการและมาปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
นพ.ณัฐชดล กิตติวรารัตน์ อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์เยื่อบุลำไส้ใหญ่ พัฒนาไปจนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในที่สุด ซึ่งโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยติด 3 อันดับแรก พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยจะพบได้มากเมื่อมีอายุมากขึ้น
ปัจจุบันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีทั้งแบบที่ทราบสาเหตุและยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด โดยโรคมะเร็งลำไส้ที่ทราบสาเหตุเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน เช่น APC, HNPCC, PJS, และ MYH เป็นต้น ส่วนโรคมะเร็งลำไส้ที่ไม่ทราบสาเหตุ อาจเกิดจากปัจจัยดังนี้ ภาวะน้ำหนักเกิน, ไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ, การรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น แหนม ไส้กรอก แฮม หรือรับประทานอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม, การเป็นเบาหวานชนิดที่ 2, อายุที่เพิ่มมากขึ้น, เคยมีติ่งเนื้อในลำไส้มาก่อน, มีลำไส้อักเสบเรื้อรัง, ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, และมีการสูบบุหรี่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถแสดงอาการได้หลายแบบ เช่น มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่าย ท้องเสียสลับท้องผูก, อุจจาระมีขนาดเล็กลง, ถ่ายเป็นเลือดปนกับอุจจาระ, อ่อนเพลีย, และน้ำหนักลด ทั้งนี้ อาการถ่ายเป็นเลือดปนกับอุจจาระ อาจทำให้หลายคนหลงเข้าใจผิดว่านี่อาจเป็นอาการของโรคริดสีดวงทวาร และละเลยการรักษาจนทำให้อาการลุกลาม และรุนแรงขึ้น
สำหรับอาการถ่ายเป็นเลือดปนอุจจาระ ก็เป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจเกิดจากอุจจาระที่แข็งแล้วไปเบียดกับติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ขึ้นผิดปกติภายในลำไส้จนเกิดเป็นแผล ทำให้มีเลือดออกและปนออกมากับอุจจาระในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคริดสีดวงทวาร มีอาการที่คล้ายกันมาก โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ดังนั้น จึงควรมาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน
“ เบื้องต้นหากเรามีอาการถ่ายเป็นเลือดก็ไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะหลายครั้งที่หมอสงสัยว่าเป็นริดสีดวงทวาร แต่เมื่อตรวจอย่างละเอียดแล้วกลับเจอมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะฉะนั้นหากถ่ายเป็นเลือดและดูแลตัวเอง 1-2 สัปดาห์แล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการถ่ายเป็นเลือดแบบเป็นๆ หายๆ แนะนำให้รีบพบแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นอาการของริดสีดวง ไม่ใช่โรคอื่นอย่างมะเร็งลำไส้ใหญ่ ” นพ.ณัฐชดล กล่าว