“ART PLAYER” ซึ่งเป็น Kids Art Studio ของรุ่นพี่ ครูผึ้ง-ทัศนีย์พร สวรรณเขตร์ ศิษย์เก่าจากหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ต คณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาโทเพื่อเปิดประสบการณ์ทักษะทางชีวิตใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และนำสิ่งนั้นมาใช้ต่อยอดความฝันให้กลายเป็นจริงคือเปิดสตูดิโอสอนศิลปะเด็กที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง
นิยามของครูผึ้งที่ว่า การเป็นครูศิลปะไม่ใช่เรื่องยาก...แต่จะเป็นครูศิลปะอย่างไร? ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายจะทำอย่างไรให้เด็กรู้สึกสนุก มีความสุข ซึมซับเอาความรู้นั้น มาแสดงออกให้เห็นเป็นรูปธรรม สามารถปรับหรือประยุกต์ใช้ต่อในชีวิตประจำวันได้
ทำให้เกิดการแรงบันดาลใจ อยากเรียนแอนิเมชัน เพื่อนำมาสร้างสรรค์ศิลปะบำบัด วรรณกรรมสำหรับเด็กก็สนใจ อยากใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างสรรค์ผลงานไม่ว่าจะเป็นด้านงานออกแบบตัวละคร งานแอนิเมชัน 3 มิติและงานแอนิเมชัน 2 มิติ ตลอดจนงานเทคนิคพิเศษในภาพยนตร์ ฯลฯ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจแม้จะไม่ได้จบมาทางสายแอนิเมชั่นโดยเฉพาะแต่ความใฝ่รู้เพื่อต่อยอดอาชีพ สุดท้ายครูผึ้งก็ได้เข้าเป็นนักศึกษาปริญญาโท สาขาคอมพิวเตอร์อาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อมีเป้าหมายอยากเปิด Kids Art Studio เป็นของตัวเอง จึงต้องพยายามเรียนรู้ เริ่มต้นจากศูนย์ในเรื่องของการใช้คอมพิวเตอร์สร้างงานแอนิเมชั่นก็ได้รับกำลังใจจากอาจารย์ผู้สอนมั่นฝึกฝน พัฒนาตัวเองจนเอาชนะใจตัวเองได้
หลังเรียนจบแล้วได้เปิดสตูดิโอสอนศิลปะในแบบของตัวเอง ชื่อว่า ART PLAYER (Kids Art Studio) สตูดิโอนี้ครูผึ้งออกแบบเอง ตกแต่งเอง มีคาแรกเตอร์การ์ตูนน่ารักๆ เป็นสัญลักษณ์ของสตูดิโอ ซึ่งแนวคิดทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมาจากการเรียนปริญญาโท ซึ่งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเรื่องของ การสร้างสรรค์สื่อแอนิเมชันสำหรับเด็กสมาธิสั้น (Designing Animation Media for ADHA Children Emphasis on Color)ความตั้งใจ คือ อยากนำศิลปะมาประยุกต์ในรูปแบบแอนิเมชัน เพื่อเป็นสื่อกลางช่วยกระตุ้นการพัฒนาการเด็ก ช่วยให้เด็กมี IQ และ EQ ที่ดี และเชื่อว่าศิลปะจะทำให้เด็กมีความสุข สามารถค้นหาตัวตนของตัวเองได้เร็วขึ้นว่าชอบอะไร โตขึ้นอยากจะเป็นอะไร อยากทำอะไร รวมถึงอยากให้เด็กสามารถนำศิลปะไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยากให้เด็กมี “ทักษะชีวิตที่ดีขึ้นค้นพบความเป็นตัวตน” ซึ่งตรงนี้เอง การที่ครูผึ้งมีสตูดิโอสอนศิลปะเป็นของตัวเอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากที่จะช่วยขัดเกลาเด็กก่อนที่จะโตไปเป็นเยาวชนและทำหน้าที่ในสังคมต่อไปอีกด้วย
ส่วนตัวอยากฝากถึงคนที่กำลังคิดว่าจะเรียนต่อดีไหม? ถ้ามีโอกาสได้เรียนก็จะดีเพราะได้อะไรเยอะมาก แม้ทุกอย่างเป็นสิ่งใหม่ต้องเริ่มมาจากศูนย์บ้างแต่มันคือความท้าทาย ทำให้เราต้องพยายามประสบการณ์ใหม่ อย่าง การนำเสนอผลงาน การรับฟังคำวิจารณ์เพื่อนำมาปรับใช้กับงาน ความอดทน ไม่ต้องกลัวว่าเราไม่มีความรู้ ไม่เคยเรียน อยากให้ลอง กล้าที่จะก้าวข้ามผ่านความกลัวนั้น แล้วจะได้รับสิ่งประสบการณ์ดีดี สามารถดึงความสามารถที่เรามี ที่เรามองเห็นมาใช้ได้เต็มที่