ศบค.เผยกลุ่มป่วนสุวรรณภูมิ มี 5 เที่ยวบิน จาก 3 ประเทศ รวม 158 คน ยอมกักตัวในที่รัฐจัดให้ 6 คน เร่งติดตามอีก 152 คน ให้มารายงานตัวภายใน 6 โมงเย็น วันที่ 4 เม.ย. หากไม่ทำถือว่าฝ่าฝืนกฎหมาย เอาผิดได้ ย้ำ เป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อ ขอให้มาอยู่ในที่รัฐกำหนด 14 วัน ส่วนครอบครัวที่ใกล้ชิด ขอให้รายงานตัวด้วย เพื่อติดตามกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน
จากกรณีผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แต่เกิดการชุมนุมประท้วงไม่ยอมรับการกักตัว 14 วัน ในสถานที่รัฐกำหนด เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อ จนสุดท้ายมีการปล่อยให้กลับไปกักตัวเองที่บ้าน
วันนี้ (4 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนหนึ่ง ยังคงเกิดขึ้นจากกลุมที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามาจากยุโรป ปากีสถาน และอินโดนีเซีย ซึ่งเมื่อคืนคนกลุ่มที่กลับมาจากต่างประเทศ ก็มีปัญหาที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเหตุขัดข้องหลายเรื่อง ปัญหาที่ไม่เข้าใจกันในสิ่งที่เกิดขึ้น นายกฯ จึงสั่งการว่าไม่ควรให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก และสั่งการประชุมเร่งด่วน เมื่อช่วงเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับข้อสรุปเรื่องราวของเมื่อคืนที่คนกลับจากต่างประเทศไม่ยอมรับการกักตัวตามที่รัฐกำหนดนั้น มีจำนวน 158 คน เดินทางมาจากญี่ปุ่น โดยเที่ยวบิน JL0031 NH0847 TG0641 จำนวน 103 คน จากกาตาร์ เที่ยวบิน QR0832 จำนวน 11 คน และจากสิงคโปร์ เที่ยวบิน SQ0976 จำนวน 44 คน โดยมีความไม่เข้าใจที่จะต้องไปกักตัวในที่รัฐจัดให้ และมีการต่อรองว่าจะไม่ขออยู่ ไม่ร่วมมือที่จะไปอยู่ในที่รัฐจัดให้ อ้างเหตุว่าไม่ทราบมาก่อน จะไปอยู่ที่ตัวเองจัดไว้ ทำให้เกิดการควบคุมกลุ่มฝูงชนไม่ได้เมื่อคืนนี้ แต่มีการร้องขอและกลับไปยังบ้านพักอาศัยตัวเองก่อน ซึ่งจำนวน 158 ราย มีผู้ที่ยอมเข้ารับการกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม.ที่จัดไว้ให้เพียง 6 คน
“คำสั่งการในที่ประชุมบอกว่า จะต้องมีเรื่องของการกักในสถานที่รัฐจัดให้ 100% ทำให้จำนวน 152 รายที่เหลือ ต้องถูกเรียกตัวเข้ามาทั้งหมด ซึ่งเราทราบข้อมูลแล้ว ตอนนี้ท่านไปสัมผัสครอบครัวท่าน พ่อแม่ญาติของท่าน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น ตอนนี้เราขอใช้มาตรการดังนี้ ขอให้รายงานตัว ภายใน 18.00 น.ของวันนี้ โดยคนที่อยู่ใน กทม. ให้รายงานตัว ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินสนามบินสุวรรณภูมิ (อีโอซี) เบอร์ 021329950 และ 0632344734 ส่วนคนที่กลับต่างจังหวัดขอให้ไปรายงานตัวยังศูนย์ดำรงธรรม ณ ศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง ซึ่งท่านต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่ทำตามกฎหมาย ถือว่ามีโทษ เจ้าหน้าที่สามารถลงโทษได้ รวมถึงญาติที่สัมผัสท่าน ถ้าท่านมีความเป็นห่วงเป็นใย ให้มารายงานตัวไปกันทั้งครอบครัว เพราะท่านเป็นผู้สัมผัส เพื่อให้ สธ.ได้บันทึกสอบสวนโรค ลงประวัติติดตามท่าน โดยขอให้ครอบครัวปฏิบัติตามนี้ คือ กักตัวเองที่บ้านเคร่งครัด เพราะถือว่าสัมผัสใกล้ชิดคนกลุ่มเสี่ยงมาจากต่างประเทศ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนคนที่เดินทางอยู่ แต่มีบางส่วนติดค้างสนามบินในต่างประเทศ เข้าประเทศไทยไม่ได้ เพราะสำนักงานการบินพลเรือนออกประกาศห้ามเข้าอากาศยานชั่วคราว 4-6 เม.ย. ดังนั้น คนที่ติดระหว่างทาง ขอให้ติดต่อไปยังสถานทูตประเทศนั้นๆ เพื่อรายงานตัว และขอความช่วยเหลือ โดยขอเวลาประมาณ 3 วันนี้ ไม่ให้มีการนำเข้าของอากาศยานมาที่เมืองไทย เพื่อเตรียมการอย่างดี เพราะ สธ.รับทราบบอกตลอด แหล่งโรคมาจากคนต่างประเทศ คือ สิ่งที่ขอความร่วมมือและช่วยกัน ส่วนคนจำนวนหนึ่งที่ขออนุญาตไว้ก่อนแล้ว คือ กลับจากอินโดนีเซีย 100 กว่าคน มาเลเซีย 83 คน นักเรียนเอเอฟเอส จากสหรัฐฯ เข้ามาอีกหลักร้อย ต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวในทีรัฐจัดให้ทั้งหมด 14 วัน โดยจะให้มีการเซ็นหนังสือยินยอม
