สธ.แจงชัดผู้ติดเชื้อโควิด-19 มี 5 กลุ่ม ย้ำกลุ่มไม่มีอาการ-มีอาการน้อย ต้องอยู่ใน รพ. 2-7 วัน เพื่อเฝ้าระวังเปลี่ยนไปมีอาการรุนแรงหรือไม่ หากอาการน้อยจะถ่ายออกไปอยู่หอผู้ป่วยเฉพาะ หรือไปโรงแรมแบบ Hospitel ที่มี รพ.ต้นสังกัดควบคุมดูแล จนครบ 14 วัน ถึงกลับบ้านได้ ย้ำกลับแล้วต้องใส่หน้ากากอนามัย แยกตัวจากผู้อื่น มีระยะห่างเกิน 2 เมตร ไม่ใช่ของร่วมกันต่อเนื่อง 1 เดือนนับตั้งแต่เจอเชื้อ
วันนี้ (31 มี.ค.) นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์ สมเด็จพระสังฆราชญารสังวร เพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ 1. ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ 2. ติดเชื้อมีอาการน้อยหรือเบา โดยไม่มีโรคเสี่ยงอื่น 3. ติดเชื้อมีอาการเบา แต่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น อ้วน กินยากดภูมิ โรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวาน ตับแข็ง 4. มีอาการปอดบวม แต่ไม่รุนแรง ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และ 5. มีอาการปอดบวมแต่อาการรุนแรง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทั้งนี้ หากเป็นกลุ่มอาการปอดบวมแล้วอย่างไรก็ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ส่วนอีก 3 กลุ่มที่ติดเชื้อไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการ ยืนยันว่าจำเป็นต้องรับไว้ในโรงพยาบาล 2-7 วัน เพื่อสังเกตอาการ คนที่ไม่มีอาการอาจไม่ต้องให้ยา หรือคนมีอาการน้อยก็อาจให้ยาตามอาการ และถ้าดูมีอาการรุนแรงขึ้นก็จะปรับสูตรยาไปเรื่อยๆ ไปจนถึงรุนแรงตามความเหมาะสม
“ส่วนที่ต้องรับไว้ 2-7 วัน ก็เพราะมีผลการศึกษาว่า แม้จะไม่มีอาการ แต่ในช่วงเวลา 2-7 วันอาจเปลี่ยนแปลงมาเป็นอาการรุนแรงได้ เพื่อความปลอดภัยจึงต้องให้อยู่ในโรงพยาบาลก่อน พอหลัง 2-7 วันแล้วไปไหนต่อ หากดูอาการแล้วดูดี ไม่รุนแรง ก็ยังไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะครบ 14 วัน แต่ถามว่าจะให้ไปไหนต่อ บางโรงพยาบาลอาจจัดหอผู้ป่วยเฉพาะสำหรับสังเกตอาการ บางโรงพยาบาลอาจจัดเป็นโรงพยาบาลเฉพาะกิจ ที่มีการใช้โรงแรมหรือหอพักมารับช่วงในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง หรือเรียกว่า Hospitel เรียกว่าก็ยังอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาล ซึ่ง Hospitel ไม่ใช่ว่าใครจะขอเข้าไปนอนได้ โดยเปรียบเสมือนหอผู้ป่วยหนึ่งของโรงพยาบาล ซึ่งจะมีโรงพยาบาลต้นสังกัดดูแล การเข้าสู่ระบบ Hospitel ได้ ต้องผ่านโรงพยาบาลต้นสังกัด” นพ.สกานต์กล่าว
นพ.สกานต์กล่าวว่า หลังครบ 14 วันนับตั้งแต่พบเชื้อ สามารถกลับบ้านได้ถ้าอาการปกติ แต่กลับบ้านไปแล้วทำงานได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่จะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกไปนอกบ้าน ต้องแยกตัวออกจากผู้อื่น ถ้าแยกห้องทำงานได้ให้แยกเลย แต่ถ้าทำไม่ได้อย่างน้อยต้องห่างจากผู้อื่น 2 เมตร ไม่ไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้อื่น และไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน ต้องรักษาสิ่งเหล่านี้ไปจนครบ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ตรวจพบเชื้อหรือมีอาการ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่รู้ว่าติดเชื้อ แต่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ระหว่างการกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน หากครบ 14 วันแล้วทำอย่างไรต่อ คือ สามารถทำงานใช้ชีวิตด้ตามปกติ แต่ต้องรักษาด้วยมาตรการที่ทำอยู่ คือ รักษาระยะห่าง (Social Distancing) สวมหน้ากากาอนามัย และล้างมือ