พบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพนักงานขับรถแผนกธุรการ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง สอบสวนพบช่วงที่ผ่านมาไปเที่ยวชะอำ กินข้าวกับแฟนและครอบครัว เก็บผลไม้ที่สวนในราชบุรี แสดงอาการเมื่อ 27 มี.ค. พักรักษาตัว 3 วัน อาการไม่ดีขึ้น ส่งต่อโรงพยาบาลประจำจังหวัด ตรวจแล้วพบเชื้อ สั่งสอบสวนผู้ใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. รายงานข่าวจากจังหวัดสมุทรสงคราม แจ้งว่า พบผู้ป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายแรกในจังหวัด เป็นชายวัย 27 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.บางแก้ว อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม อาชีพพนักงานขับรถแผนกธุรการ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม จากข้อมูลการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยรายนี้มีหน้าที่รับส่งผ้า ส่งผลแล็บที่โรงพยาบาลในเครือ และรับส่งแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือ และบ้านพักย่านแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ มาส่งที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งบางวันในตอนเย็นผู้ป่วยจะออกไปดื่มสุรากับเพื่อนที่อยู่ใกล้บ้าน
เมื่อลำดับเหตุการณ์ย้อนหลังพบว่า วันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. ขับรถยนต์ส่วนตัวไปเที่ยวชายหาดชะอำใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยลำพัง ถึงที่หมายเวลา 19.00 น. นั่งเล่นคนเดียวบริเวณชายหาดประมาณ 15 นาที จากนั้นเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อบริเวณชายหาด และเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวของแฟนสาวที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง มีผู้ร่วมรับประทานอาหารทั้งหมด 6-7 คน เป็นชาวสมุทรสงครามทั้งหมด จากนั้นจึงเดินทางกลับบ้านเวลา 23.20 น.
วันที่ 15 มี.ค. ไปสอบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ที่โรงเรียนศรัทธาสมุทร ถนนเอกชัย ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม ตั้งแต่เช้าจรดเย็น จากนั้นวันที่ 16-20 มี.ค. ไปทำงานตามปกติ กระทั่งวันที่ 21 มี.ค. ไปเก็บผลไม้ที่สวนแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ร่วมกับแฟนสาวและพ่อแม่ของแฟน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น วันที่ 22 มี.ค. ไปทำงานตามปกติ
ผู้ป่วยรายดังกล่าวเริ่มแสดงอาการในวันที่ 27 มี.ค. รู้สึกมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ ไอนานๆ ครั้ง มีเสมหะเล็กน้อย ไม่เหนื่อย รักษากับทางโรงพยาบาลที่ทำงาน แพทย์วัดไข้ได้ 38.5 องศาเซลเซียส จึงได้รับยากลับไปรับประทานต่อที่บ้าน โดยให้หยุดทำงานตั้งแต่วันที่ 27-30 มี.ค.
กระทั่งวันที่ 31 มี.ค. ผู้ป่วยรายดังกล่าวไปทำงานตามปกติ อาการดีขึ้นเล็กน้อยแต่ยังมีอาการไอ กระทั่งเวลา 14.00 น. รู้สึกมีไข้ จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ทำงาน แพทย์วัดไข้ได้ 38 องศาเซลเซียส ต้นสังกัดจึงส่งตัวมาตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อเวลา 18.15 น.
แพทย์เอกซเรย์ปอดและเจาะเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และเนื่องจากเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จึงโทรศัพท์ปรึกษาสำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) และได้รับโค้ด จึงแยกผู้ป่วยไว้ที่ห้องแยกโรค และทำการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัส กระทั่งวันที่ 1 เม.ย. ผลตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ด้าน นพ.โชคชัย ลีโทชวลิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. เข้ามาตรวจที่โรงพยาบาลต้นสังกัด แต่ไม่มีสัญญาณผิดปกติ แพทย์จึงให้กลับไปเฝ้าดูอาการที่บ้าน จากนั้นมาพบแพทย์วันที่ 31 มี.ค. อาการไม่ดีขึ้น แพทย์ประเมินมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งตัวมาที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า และได้รับไว้เป็นคนไข้ ตรวจเช็กตามมาตรฐาน และส่งตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลออกมาเป็นบวก
“ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มมีอาการน้อย ยังไม่มีอาการแทรกซ้อน ปอดยังเป็นปกติ จะให้ยารักษาตามมาตรฐานการดูแล เบื้องต้นจะรอดูการรักษา 3 วัน ตรวจร่างกายเป็นระยะๆ ว่า มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร หากไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะหายเป็นปกติ” นพ.โชคชัย กล่าว
ขณะที่ นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้สอบสวนผู้ที่ใกล้ชิด โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสถานที่ทำงาน (โรงพยาบาลเอกชน) และกลุ่มครอบครัว ตลอดจนบุคคลใกล้ชิดของผู้ป่วยที่อยู่ร่วมกัน โดยจะนำตัวมาตรวจดูเชื้อเพื่อกักกันแยกตัว 14 วัน ป้องกันไม่ให้ไปแพร่เชื้อผู้อื่น
สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ที่เฝ้าระวังเป็นผู้ที่กลับจากต่างประเทศ 16 ราย ชาวบ้านในพื้นที่ 24 รายรวม 40 ราย ครบกำหนดแล้ว 19 ราย เหลือ 21 ราย หากรวมกับเคสล่าสุด มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วจำนวน 1 ราย