"อนุทิน" แจงแผนรับมือ "ผีน้อย" ต้องกักตัว 28 วัน ที่เกาหลีก่อนเดินทางกลับ 14 วันระหว่างรอทำเรื่องขออนุญาตกลับ และกักที่ไทย 14 วัน โดยรัฐจัดหาสถานที่ให้ ส่วนทุกคนที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีต้องกักตัว 14 วันด้วย เผยไม่ได้เดินทางมาจำนวมากพร้อมกัน เชื่อบุคลากรเพียงพอดูแล ส่วนหน้ากากอนามัยภาพรวมยังบริหารจัดการได้ พร้อมจัดหาประกันช่วยคนทำงานสู้ไวรัส
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหาร สธ. เพื่อหามาตรการเกี่ยวกับแรงงานไทยผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้หรือผีน้อย ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ว่า กลุ่มผีน้อยเนื่องจากเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จึงจะต้องขออนุญาตทางตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เกาหลีใต้ก่อน ถึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกมาได้ ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 10 วัน ดังนั้น จึงได้ขอให้กระทรวงการต่างประเทศเจรจากับทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ว่า ขอให้ยืดกระบวนการนี้เป็น 14 วัน และให้มีการกักกันตัวเอง 14 วัน ถึงให้ขึ้นเครื่องกลับมาได้ ซึ่งก่อนที่จะขึ้นเครื่องก็ต้องวัดไข้ก่อน หากมีไข้ก็ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน และจะต้องเข้ารับการรักษาก่อน ส่วนคนที่ไม่มีปัญหาเมื่อเดินทางกลับมาถึงก็จะถูกวัดไข้เช่นกัน หากมีไข้ก็เข้าโรงพยาบาลตามระบบ แต่หากไม่มีไข้ก็จะต้องถูกกักกันเพื่อเฝ้าระวังโรค 14 วัน ซึ่งจะกักในพื้นที่ที่รัฐจัดให้รวมทั้งหมดที่จะต้องถูกกักเป็น 28 วัน อย่างไรก็ตาม การเดินทางกลับมาไม่ได้กลับมาพร้อมกันจำนวนมาก แพทย์ บุคลากร เตียง คิดว่ามีเพียงพอ
นายอนุทินกล่าวว่า สถานที่กักกันมีหลายที่ มีทั้งทางของทหาร กองทัพ และ สธ.ก็มีเล็งไว้หลายที่ เรื่องของสาธารณูปโภคมารองรับไม่ใช่ปัญหา นอกจากส่วนของผีน้อยแล้ว ทุกคนที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ และไม่ว่าจะมาจากเมืองใดก็ตาม เมื่อมาถึงประเทศไทยก็ต้องกักกันเพื่อเฝ้าระวัง 14 วันด้วย แม้จะมีมาตรการดังกล่าวแล้ว ไม่กล้าพูดว่าจะเจอผู้ป่วยเป็นศูนย์ หรือหากมีก็ต้องน้อยสุด และถูกตรวจจับได้ ตอนนี้เริ่มทยอยแล้ว เมื่อตรวจเชื้อไม่เจอก็นำไปอยู่ในพื้นที่ที่เราจัดหาให้ ไม่ได้ให้กลับบ้าน ส่วนคนที่กลับเข้ามาก่อนหน้านี้นั้นได้มีการติดตามอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในรพ. นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้ตรวจราชการ สธ. ทั้ง 12 เขตสุขภาพรายงานว่า ยังบริหารจัดการได้ มีแต่คาดว่าจะขาดแคลนหากไม่บริหารจัดการ ซึ่งเป็นการคาดว่าจะขาดแคลนมาเป็นเดือนแล้ว บางครั้งต้องดูภาพรวม หากมีบุคลากรเดินไปหาหน้ากากอนามัยในห้องๆ หนึ่งไม่เจอ แล้วบอกว่าขาดก็คงไม่ใช่ ขณะนี้มีรายงานหน้ากากอนามัยแต่ละเขตยังมีหลายแสนชิ้น ที่พอให้ทำงานได้อยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ทางกระทรวงพาณิชย์ ก็มีมาตรการแก้ไขแล้ว และห้ามส่งออก องค์การเภสัชกรรมก็พร้อมซื้อวันละ 3.5 แสน ทุกวัน
เมื่อถามถึงกรณีบริษัทประกันภัยมอบประกันชีวิตให้บุคลากรสถาบันบำราศนราดูร แต่บุคลากรที่ต่อสู้กับไวรัสโคโรนา 2019 มีทั้งประเทศ จะมีการดูแลอย่างไร นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสำรวจมีใครทำงานโดยตรงกับผู้ป่วย ซึ่งเรามีกองทุนช่วยเหลืออยู่แล้วในการดูแล และได้ประสานบริษัทประกันสุขภาพเพื่อดูแลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กรมการแพทย์ก็เตรียมกองทุนช่วยเหลือเพิ่มเติมไว้แล้ว ขณะที่งบกลางที่ ครม.อนุมัติให้พันกว่าล้าน ก็มีค่าเสี่ยงภัยด้วย