MGR Online - แพทย์จุฬาฯ ราชบัณฑิต-ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก โพสต์เตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเสพสื่อสังคมเรื่อง โควิด-19 เพราะเป็นข้อเท็จจริงเพียง 20% เท่านั้น ชี้อาจส่งผลทางจิตใจและก่อปัญหาสุขภาพมากกว่าเป็นโรคจริงๆ เสียอีก แนะลดเสพสื่อ ดูแลสุขภาพ ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและผู้รู้จริง
วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ให้ข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยกล่าวถึงเรื่อง “โรคโควิด 19 กับผลทางจิตใจ” ว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ในสื่อสังคมเกี่ยวกับโควิด-19 เป็นข้อเท็จจริงเพียงร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือเป็นความคิดเห็น ซึ่งต้องระมัดระวัง
“สิ่งที่สำคัญในการเสพสื่อ เราต้องแยกความจริง และความเห็น ภาพของโรค ทำให้ถูกมองว่า เป็นโรคร้าย และบางครั้งมองดูเหมือนใกล้ตัว ... ในขณะนี้หลายคน ถึงแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่การเสพสื่อ หรือรับรู้สื่ออย่างมาก ก็จะทำให้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ผลที่เกิดขึ้นก็จะคล้ายกับ post traumatic stress มีอาการนอนไม่หลับ หวาดกลัว ตื่นตัว สะดุ้ง ไม่มีสมาธิในการทำงาน เครียดง่าย
เมื่อมองดูแล้ว อาการดังกล่าวในภาพรวม จะเป็นปัญหาต่อสุขภาพ และจะต้องถูกคำนึง มากกว่าโรคโควิด-19 ในขณะนี้เสียอีก” ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุ และเตือนว่า หากผู้ใดรู้ตัวว่ามีอาการหวาดวิตก ขอให้ลดในการเสพสื่อ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ดูแลร่างกายให้แข็งแรง มีสติและทำตามคำแนะนำของทางสาธารณสุข และผู้ที่รู้จริงเท่านั้น
สำหรับข้อความทั้งหมดที่ ศ.นพ.ยง โพสต์มีดังนี้
โรคโควิด-19 กับผลทางจิตใจ
ทุกครั้งที่มีโรคอุบัติใหม่ และองค์ความรู้ยังไม่มาก
ทุกคนจะเกิดความกลัว โดยเฉพาะในปัจจุบัน มีสื่อสังคมเข้ามามากมาย
ข้อมูลที่เกิดขึ้นจะประกอบไปด้วยความจริง 20% และเติมด้วยความเห็น
ความเห็นที่เติมเข้าไป ก็ขึ้นอยู่กับผู้เติม ในแง่บวก หรือลบ ก็ได้
สิ่งที่สำคัญในการเสพสื่อ เราต้องแยกความจริง และความเห็น
ภาพของโรค ทำให้ถูกมองว่าเป็นโรคร้าย และบางครั้งมองดูเหมือนใกล้ตัว
บุคลากรทางการแพทย์ จะยิ่งใกล้ตัวเข้าไปใหญ่
การกักให้อยู่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของโรค ประกอบกับความกลัว จะมีผลทางจิตใจค่อนข้างมาก
ในสมัย MERS ระบาด มีการศึกษาผลทางจิตใจ ในผู้สัมผัสโรค ก็จะพบคล้ายกับ post traumatic stress คือ มีอาการ ตื่นตัว สะดุ้ง ตกใจ ไม่มีสมาธิ เครียดง่ายกับเรื่องธรรมดา
ในขณะนี้หลายคน ถึงแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์
แต่การเสพสื่อ หรือรับรู้สื่ออย่างมาก ก็จะทำให้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์
ผลที่เกิดขึ้น ก็จะคล้ายกับ post traumatic stress มีอาการนอนไม่หลับ หวาดกลัว ตื่นตัว สะดุ้ง ไม่มีสมาธิในการทำงาน เครียดง่าย
เมื่อมองดูแล้ว อาการดังกล่าวในภาพรวม จะเป็นปัญหาต่อสุขภาพ และจะต้องถูกคำนึงมากกว่าโรคโควิด-19 ในขณะนี้เสียอีก
ดังนั้น ทางออกที่เป็นไปได้ ถ้ารู้ตัวว่ามีอาการดังกล่าว ขอให้ลดในการเสพสื่อ เรียนรู้ แยกความจริงกับความเห็น
ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ดูแลร่างกายให้แข็งแรง
ให้มีสติ ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ตามคำแนะนำของทางสาธารณสุข และผู้ที่รู้จริงเท่านั้น