MGR Online - ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ชี้ โควิด-19 มีแนวโน้มระบาดทั่วโลก โดยจีนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีแล้ว ทำให้ผู้ป่วยในจีนเพิ่มขึ้นน้อยกว่านอกประเทศแล้ว ชี้ เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น-อิหร่าน-อิตาลี อาการหนัก ชมไทยควบคุมสถานการณ์ได้ดีมาก หลังเจอผู้ป่วยรายแรกเมื่อเดือนที่แล้ว ยันต้องช่วยกัน และรอความหวังจากยาลดปริมาณไวรัสที่กำลังวิจัยกันอยู่
วันนี้ (29 ก.พ.) เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วโลกว่า มีแนวโน้มว่า โควิด-19 มีแนวโน้มของการเป็นโรคระบาดทั่วโลก หรือ Pandemic แล้ว โดยขณะที่ในจีนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี เชื้อไวรัสกลับแพร่กระจายไปนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใน 4 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิหร่าน และอิตาลี ส่วนประเทศไทยถือว่ายังคุมสถานการณ์ได้ดีมาก
"บ้านเรา พบผู้ป่วยรายแรกมาเป็นเดือน แต่ก็ยังสามารถควบคุมการระบาดได้ดีมาก เราต้องการให้มีการระบาดให้ช้าที่สุด และพยายามควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดแบบกว้างขวาง หรือมีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นพร้อมกัน จะทำให้ระบบสาธารณสุขดูแลไม่ทั่วถึง จะมีความสูญเสียมาก
"ขณะนี้ก็มีข่าวดี ที่ทางการจีน บอกมาแล้วว่า ยาที่รักษาได้ผลลดปริมาณไวรัส เพื่อลดการเกิดภาวะปอดบวม คือ Flavipiravir หรือ T-705 ที่ญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ ต่อมาพบว่ายานี้มีฤทธิ์กว้างในการยับยั้งการเพิ่มจำนวน RNA โดยการขัดขวาง RNA-dependent PNA polymerase หรือกระบวนการสร้าง RNA ต่อไวรัสหลายชนิดที่เป็น RNA virus และในขณะนี้บริษัทในจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และมีความหวังที่จะหาซื้อได้จากประเทศจีน จนกว่าเราจะสามารถผลิตได้เอง แนวทางการรักษา คงต้องรอข้อมูลรายละเอียดต่างๆที่ศึกษาในประเทศจีนที่มีผู้ป่วยจำนวนมากว่าจะมีวิธีใดได้ผลดีที่สุด เชื่อว่าคงจะมีรายงานออกมาต่อไป" ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุ
สำหรับข้อความทั้งหมดที่ ศ.นพ.ยง โพสต์มีดังนี้
"โควิด 19 วันนี้เราจะเห็นว่าการระบาดของโรค นอกประเทศจีน มีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวัน มากกว่าในประเทศจีน มา 3 วันแล้ว และมีแนวโน้มที่จะระบาดทั่วโลก pandemic
ในประเทศจีนมีการควบคุมการระบาดของโรค ได้อย่างดี 4 ประเทศที่อยู่นอกประเทศจีน ที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดออกไป ก็จะมีเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ในตะวันออกกลางก็จะเป็นประเทศอิหร่าน ในยุโรปก็จะเป็นประเทศอิตาลี ที่มีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว
ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก และไม่รู้ตัว จะเป็นผู้ที่แพร่โรคไปได้มาก ทุกคนจะต้องเคร่งครัดป้องกันตนเอง และปฏิบัติตามแนวทาง คำแนะนำ ของกระทรวงสาธารณสุข ใครไม่สบายจะต้องบอกตามความเป็นจริง เพื่อจะได้ทราบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่
บ้านเรา พบผู้ป่วยรายแรกมาเป็นเดือน แต่ก็ยังสามารถควบคุมการระบาดได้ดีมาก เราต้องการให้มีการระบาดให้ช้าที่สุด และพยายามควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดแบบกว้างขวาง หรือมีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นพร้อมกัน จะทำให้ระบบสาธารณสุขดูแลไม่ทั่วถึง จะมีความสูญเสียมาก
ขณะนี้ก็มีข่าวดีที่ทางการจีน บอกมาแล้วว่า ยาที่รักษาได้ผลลดปริมาณไวรัส เพื่อลดการเกิดภาวะปอดบวม คือ Flavipiravir หรือ T-705 ที่ญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ ต่อมาพบว่ายานี้มีฤทธิ์กว้างในการยับยั้งการเพิ่มจำนวน RNA โดยการขัดขวาง RNA-dependent PNA polymerase หรือกระบวนการสร้าง RNA ต่อไวรัสหลายชนิดที่เป็น RNA virus และในขณะนี้บริษัทในจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และมีความหวังที่จะหาซื้อได้จากประเทศจีน จนกว่าเราจะสามารถผลิตได้เอง
แนวทางการรักษา คงต้องรอข้อมูลรายละเอียดต่างๆที่ศึกษาในประเทศจีนที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ว่าจะมีวิธีใดได้ผลดีที่สุด เชื่อว่าคงจะมีรายงานออกมาต่อไป ในขณะนี้สิ่งที่เราจะทำได้ ทุกคนจะต้องช่วยกัน ลดการระบาด หรือการติดต่อ ให้น้อยที่สุด เพื่อรอองค์ความรู้ใหม่ ที่จะเกิดขึ้นมาโดยเฉพาะการรักษา และการป้องกันโรคด้วยวัคซีน"
