สธ.เผยพบมีติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นพนักงานขายของใกล้ชิดชาวต่างชาติ ขณะนี้รับไว้รักษาอยู่ที่ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ขณะยอดป่วยสะสมอยู่ที่ 42 ราย รักษาหายแล้ว 28
วันนี้ (29 ก.พ.) ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดวันนี้ได้รับรายงาน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง คือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ยืนยันพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย ผู้ป่วยเป็นเพศชาย อายุ 21 ปี อาชีพพนักงานขาย สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 24 ก.พ.และเข้ารับการรักษาวันที่ 25 ก.พ.ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในขณะนี้รับไว้รักษาอยู่ที่ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ด้วยอาการไข้ ไอ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ ขณะนี้ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ทั้ง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนแล้ว
ในขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 14 ราย รักษาหายแล้ว 28 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 42 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่มาจากการเฝ้าระวัง 28 ราย เป็นคนจีน 16 ราย คนไทย 12 ราย และเป็นผู้ป่วยที่มาจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 14 ราย คือ เป็นคนจีน 9 ราย คนไทย 5 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ไทยมีรายงานผู้ป่วยอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 2 รายที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว รอร่างกายฟื้นตัว ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยอยู่อันดับ 13 เมื่อเทียบกับประเทศที่มีการระบาดทั้งหมด ถือว่า 12 ประเทศก่อนเรามีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าไทย นอกจากนี้ ต้องระวังอีก คือ ประเทศฝรั่งเศส
นพ.สุขุม กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,798 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 86 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 2,712 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,529 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,269 ราย ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกใน 57 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 84,144 ราย เสียชีวิต 2,876 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 78,832 ราย เสียชีวิต 2,788 ราย
"ขอย้ำเตือนประชาชน ถ้าหากไม่จำเป็นก็อย่าไปเสี่ยงให้เกิดโรคอีก โดยเฉพาะขอให้หลีกเลี่ยงไปในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ได้เตือนไปก่อนหน้านี้ เพราะที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าติดมาจากประเทศเสี่ยง ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และที่สำคัญเมื่อกลับจากประเทศเสี่ยง ขอให้เก็บตัวอยู่บ้าน 14 วัน โดยต้องเก็บตัวแบบไม่คลุกคลีกับคนในครอบครัว และทานอาหารต้องแยกสำรับ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดคนในครอบครัว พร้อมกันนี้ขอให้หลีกเลี่ยงอยู่ในคนเยอะๆ ออกไปข้างนอกสวมหน้ากากอนามัย และเมื่อเข้าห้องน้ำก็ต้องยิ่งล้างมือบ่อยๆ และหากใน 14 วันยังมีอาการไข้ ไอ จาม ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางด้วย" นพ.สุขุม กล่าว
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า อยากฝากสื่อนิดหนึ่ง เวลาพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม มาเขียนว่า ด่วน! จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกหรือไม่ ทำไมไม่นำเสนอว่า รักษาหายแล้วกี่คนๆ น่าจะดีกว่า เราน่าจะช่วยกัน