สาวไทยไปญี่ปุ่น 9 วัน แม้จะป้องกันตัวเองดีมากแต่กลับมามีไข้ แพทย์ต้องพาตัวเข้าห้องสังเกตอาการ 9 ชั่วโมง แม้ผลตรวจเลือดเป็นลบแต่ต้องจ่ายค่ารักษากว่า 4 หมื่น แนะพักไว้ก่อน ส่วนใครไปประเทศกลุ่มเสี่ยงกลับมาป่วยให้รีบไปโรงพยาบาล แล้วพูดความจริงให้หมด ช่วยตัวเองและคนรอบข้างได้
วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Katun Hunter ได้เผยแพร่ภาพขณะที่เจ้าตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลเนื่องมาจากมีไข้ หลังกลับจากการเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ถึงกับบอกว่า "เข็ดไปอีกซักระยะ พักไว้ก่อนนะญี่ปุ่น" โดยเจ้าตัวเล่าว่า ตนเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ถึง 4 ก.พ. 2563 กลับมาทำงานได้ปกติ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการประกาศหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือ โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 บอกกับตัวเองว่าป้องกันตัวเองดีมาก ทั้งหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ
แต่เมื่อผ่านระยะฟักตัว 14 วัน พบว่ามีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตัว ตัวร้อน วัดอุณหภูมิจากปรอทวัดไข้พบว่าเท่ากับ 38.8 องศาเซลเซียส จึงไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ทำการซักประวัติว่าได้เดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ จึงตอบไปว่าไปญี่ปุ่น และอีกหลายคำถาม จึงพบว่าผู้ป่วยเข้าข่ายมีโรคโควิด-19 สักพักก็มีเจ้าหน้าที่ขออนุญาตพาตัวไปเข้าห้องสังเกตอาการ โดยมีกล้องวงจรปิดไว้คอยดูอาการตลอด พร้อมแพทย์ที่ใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อเข้ามาตรวจเพื่อหาเชื้อ โดยใช้การตรวจหาเชื้อแบบไข้หวัดใหญ่
ครั้งแรกแหย่จมูก รอผล 45 นาที ผลออกมาพบว่าไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ ครั้งที่สองแพทย์เริ่มจับมือ บีบเบา ๆ พร้อมทั้งอธิบายผู้ป่วย ก่อนที่จะใช้ชุดตรวจที่ 2 ตรวจทั้งจมูก คอ และเจาะเลือดเพื่อส่งตรวจกับหน่วยงานเฉพาะ รอผลประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ยังคงต้องอยู่ในห้องสังเกตอาการต่อ โดยมีคนนั่งเฝ้าพร้อมชุดป้องกันการติดเชื้อ กระทั่งเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งผลว่า ผลตรวจเลือดเป็นลบ รวมระยะเวลาที่อยู่ในห้อง 9 ชั่วโมง ขณะนี้อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
"ใครมีเพื่อนที่ไปประเทศสุ่มเสี่ยง ป่วยแล้วไปโรงพยาบาล ถ้าซักประวัติขอให้พูดให้หมด อย่ากั๊ก เพราะข้อมูลที่แท้จริงจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยง เพื่อรักษาเราและป้องกันคนอื่นได้อีกด้วย"
สำหรับค่ารักษาพยาบาลในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา คิดค่าใช้จ่าย 44,554 บาท แต่มีส่วนลดให้ เหลือ 42,073.80 บาท ซึ่งเจ้าตัวเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เนื่องจากตนรับผิดชอบเดินทางไปเอง
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ที่มีสถานการณ์การติดต่อกับโรคในคนพื้นที่ใกล้เคียงกับจีน ให้เลือนการเดินทางออกไปก่อน ในกรณีที่จำเป็นจะต้องระมัดระวังการติดเชื้อและปฏิบัติคำแนะนำอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อกลับมาขอให้เฝ้าระวังตัวเองเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่คนหนาแน่น รักษาร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หรือแยกสำรับเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง