รพ.บี.แคร์ แจงมีผู้ป่วยติดโควิด-19 จริง เผยผู้ป่วยปกปิดประวัติการเดินทาง ต้องสอบถามหลายครั้งจึงทราบ ล่าสุดส่งต่อผู้ป่วยไป รพ.รัฐแล้ว เร่งตรวจเชื้อบุคลากร 30 คนที่สัมผัส ล่าสุดผลเป็นลบ ให้หยุดงานเฝ้าระวัง 14 วัน วอนหากมีประวัติไปต่างประเทศให้แจ้งข้อเท็จจริง การปกปิดเป็นผลเสียกระทบต่อครอบครัว สังคม ผู้อื่น
จากกรณีกระแสข่าวผู้ป่วยชายสูงอายุกลับจากท่องเที่ยวเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 ก.พ. และได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ โดยไม่ยอมแจ้งประวัติการเดินทาง ต้องมีการซักถามหลายครั้งจึงยอมบอก ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีผลตรวจเป็นบวก และมีผู้สัมผัสผู้ป่วยรายนี้จำนวนมาก ทำให้เกิดความกังวลถึงการเป็นซูเปอร์ สเปรดเดอร์
วันนี้ (26 ก.พ.) โรงพยาบาลบี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ชี้แจงกรณีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่โรงพยาบาลบี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ว่าเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ป่วยชายไทยมาด้วยอาการไข้ ไอ ผู้ป่วยปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ เบื้องต้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ และให้รักษาตัวในโรงพยาบาล
เช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 แพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ได้เข้าตรวจอาการผู้ป่วยและสอบถามประวัติการเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง ผู้ป่วยปฏิเสธ ช่วงสายผู้ป่วยได้เปิดเผยประวัติว่าได้เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง
เมื่อผู้ป่วยแจ้งประวัติ โรงพยาบาลฯ ได้ติดต่อสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ซึ่งได้ระบุว่าผู้ปวยรายนี้เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง (Patient Under Investigation) และย้ายผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในห้องความดันลบ (Negative Pressure Room) และส่งตรวจ PCR for COVID-19 ทันที
ช่วงค่ำของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผลตรวจ PCR เบื้องต้น พบเชื้อ COVID-19 (Detected) โรงพยาบาลบี.แคร์ ได้แจ้ง สปคม.ทันที ปัจจุบันผู้ป่วยได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการที่ผู้ป่วยปกปิดและปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ในกลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 30 คน ซึ่งโรงพยาบาลร่วมกับ สปคม.ได้ดำเนินการดังนี้
1. บุคลากรที่สัมผัสกับผู้ป่วยทุกคน ได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และตรวจเลือดเพื่อหา Antibody ของ Virus เบื้องต้นผลตรวจ PCR for COVID-19 ของบุคลากรทุกคนที่สัมผัสกับผู้ป่วยเป็นลบ คือไม่พบเชื้อไวรัส แต่ยังต้องตรวจซ้ำในช่วงเวลา 7-14 วัน
2. ให้บุคลากรดังกล่าวหยุดงาน (Self quarantine) สังเกตอาการที่บ้าน และปฏิบัติตามแนวทางของกรมควบคุมโรค
3. ทำการ Deep Clean ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และงดรับผู้ป่วยในหอผู้ป่วย
“เบื้องต้นผลการตรวจ PCR for COVID-19 ของบุคลากรโรงพยาบาลทั้ง 30 คน ตรวจไม่พบเชื้อไวรัส”
จึงขอความร่วมมือผู้รับบริการทุกท่าน แจ้งประวัติที่เป็นความจริงเพื่อเข้าสู่กระบวนการการคัดกรอง การวินิจฉัย การแยกโรคตามมาตรฐาน ดังนี้
1. หากท่านมีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกรมควบคุมโรค หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มดังกล่าว ร่วมกับมีอาการไข้ ไอ จาม อ่อนเพลีย ให้แจ้งที่จุดคัดกรองของโรงพยาบาลฯ ซึ่งได้จัดให้มีทุกประตูเข้าออกของโรงพยาบาล
2. โรงพยาบาลฯ จะนำท่านไปยังห้องตรวจแยกโรค แรงดันลบ (Negative Pressure) ทันที และติดต่อประสาน สปคม. เพื่อให้ สปคม.พิจารณาว่าเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง (Patient Under Investigation) หรือไม่
3. หากเข้าเกณฑ์ ท่านจะได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และพักรักษาตัวในห้องความดันลบ (Negative Pressure) ของโรงพยาบาลฯเพื่อรอผลตรวจซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง
4. หากผลตรวจพบเชื้อ ทาง สปคม.จะดำเนินการรับตัวท่านไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลภาครัฐต่อไป
การปกปิดข้อมูลเป็นผลเสีย มีผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อครอบครัวของท่านเอง
ทั้งนี้ โรงพยาบาลบี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ขอยืนยันว่าโรงพยาบาลฯ มีการเฝ้าระวัง และคัดกรองโรคที่เป็นมาตรฐาน และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก หรือแชร์ข่าวที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสถานการณ์ที่แน่นอนจากโรงพยาบาลฯโดยหากมีความเคลื่อนไหวหรือมีสถานการณ์ใดๆ ที่ต้องเฝ้าระวังโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ จึงขอแจ้งมา ณโอกาสนี้