เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน จี้ผู้ประกอบการหยุดให้ข่าวบิดเบือน อ้างกรมการปกครองไฟเขียวตู้คีบตุ๊กตาในห้าง เอื้อประโยชน์ตัวเอง วอนกรมการปกครองเร่งชี้แจง สั่งเด็ดขาดให้ยุติไว้ก่อน เพื่อพิสูจน์ความผิด ตาม พ.ร.บ.พนัน
วันนี้(23ก.พ.)นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า จากกรณีการบิดเบือนข่าวที่ไม่ใช่ความจริง สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเด็นตู้คีบตุ๊กตา โดยนำเสนอข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา พาดหัวข่าวและเนื้อหาในข่าวเป็นข้อมูลเดียวกัน เนื้อหาระบุว่า “กระทรวงมหาดไทยสรุปให้ตู้คีบตุ๊กตาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าไม่เข้าข่ายเป็นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน 2478 บัญชี ข.หมายเลข 28” ซึ่งเป็นข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง และมิหนำซ้ำยังโยนความผิดให้ตู้คีบตุ๊กตาที่ติดตั้งตามสถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยว ตลาดนัดและชุมชน เพื่อกลบเกลื่อนชี้นำว่าตู้คีบตุ๊กตาในห้างสรรพสินค้าไม่มีความผิดสามารถให้เล่นได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ผู้ประกอบการควรยุติการให้ข้อมูลนี้
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ผลการประชุมและหารือแนวทางการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ เมื่อวันที่20ก.พ.ที่ผ่านมา ของทางสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ซึ่งได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันหารือแนวทาง โดยมีรองอธิบดีกรมการปกครอง นายพิริยะ ฉันทดิลก เป็นประธานการประชุม และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายส่วนเข้าร่วม อาทิ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนกรมศุลกากร ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมผู้ประกอบการสวนสนุกและเครื่องเล่นเกมส์ไทย มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน เป็นต้น ซึ่งเนื้อหาโดยสรุปในที่ประชุม คือ ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวช่วยกันสอดส่องดูแลและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และขอความร่วมมือผู้ประกอบการตู้คีบตุ๊กตาให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยไม่เคยออกใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นตู้คีบตุ๊กตา ข้อสำคัญคือยังไม่มีความเห็นใดๆจากที่ประชุมตัดสินว่าตู้คีบตุ๊กตาในห้างสรรพสินค้าไม่ผิดกฎหมาย
“เครือข่ายยืนยันว่าเราพบตู้คีบตุ๊กตาที่เข้าข่ายการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน 2478 บัญชี ข. หมายเลข 28อีกจำนวนมาก เฉพาะพื้นที่ กทม.สำรวจพบใน49 ห้างสรรพสินค้า กว่า1,077ตู้ เราขอเรียกร้องไปยังกรมการปกครองให้เร่งทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริง และเร่งดำเนินการสืบหาแหล่งที่มาของผู้ให้ข้อมูลอันไม่ใช่ความจริงนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นการสร้างความเสียหายต่อทางราชการและขัดขวางการทำงานของรัฐ และขอให้กรมการปกครองสั่งเด็ดขาดให้ยุติการดำเนินการตู้คีบตุ๊กตาดังกล่าวไว้ก่อน เพื่อเร่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายปกครองพิสูจน์ว่าตู้คีบตุ๊กตาในห้างสรรพสินค้าเข้าข่ายการพนันหรือไม่ ทั้งนี้เครือข่ายฯจะนำปัญหาการให้ข่าวที่บิดเบือนนี้เข้าหารือกับรองอธิบดีกรมการปกครอง นายพิริยะ ฉันทดิลก ในวันจันทร์ที่24ก.พ.เพื่อยุติความสับสน จากข่าวเท็จที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ” นายณัฐพงศ์ กล่าว