xs
xsm
sm
md
lg

คณะวิศวะ ม.มหิดล เปิด 3 นวัตกรรม รับมือ “โคโรนา”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะวิศวะ ม.มหิดล คิดค้น 3 นวัตกรรม "หุ่นยนต์แพทย์อัจฉริยะ-ถุงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ระบบ AI คัดกรองข่าวปลอม" รับมือไวรัสโคโรนา

วันนี้ (11 ก.พ.) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดแถลงข่าว 3 นวัตกรรม "หุ่นยนต์แพทย์อัจฉริยะ-ถุงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ระบบ AI คัดกรองข่าวปลอม" รับมือไวรัสโคโรนา โดย รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศมีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ในหลายพื้นที่ ดังนั้นในช่วงวิกฤติไวรัสโคโรนา ย่อมต้องการนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาแบ่งเบาภาระแพทย์พยาบาล และยกระบบสาธารณสุขของประเทศ ดังนั้น ทีมวิจัยคณะวิศวะ มีแนวคิดในการพัฒนาหุ่นยนต์แพทย์อัจฉริยะ Doctosight สำหรับการวินิจฉัยและรักษาผ่านระบบโทรเวช (Telemedecine) จะช่วยให้แพทย์และบุคลากรไม่ต้องเข้าใกล้หรือสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

จุดเด่นของหุ่นยนต์นี้สามารถทำงานร่วมกันได้มากกว่าหนึ่งตัวเพื่อตอบสนองคำสั่ง ในการตรวจสอบข้อมูลการทำงานในเชิงดิจิตอลในรูปแบบของการทำงานหุ่นยนต์ เช่น เวลาการบังคับของผู้ใช้งาน การระบุตำแหน่งหุ่นยนต์ที่มากกว่าหนึ่งตัวในระบบควบคุม ทั้งนี้ หุ่นยนต์ทั้งหมดในระบบนั้นจะมีหน้าที่ในการรับส่งของมูลระหว่างกันเพื่อทำการอัพเดตสถานะ การทำงานภายในโรงพยาบาลและสามารถควบคุมได้ผ่านแอพพลิเคชั่น

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ กล่าวด้วยว่า คณะวิศวะ ยังคิดค้นถุงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในการป้องกันเชื้อโรคและสารเคมี เพื่อขนย้ายผู้ป่วยในสถานการณ์อุบัติภัยโรคระบาด สารเคมีหรือสารกัมมันตรังสีนั้นสำคัญยิ่ง เนื่องจากสามารถส่งผลอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เช่น กรณีไวรัสโคโรนา ผู้ติดเชื้อสามารถส่งผ่านเชื้อไปยังแพทย์พยาบาลหรือผู้ที่ช่วยเหลือได้ ดังนั้น จึงคิดค้นนวัตกรรม ถุงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในการป้องกันเชื้อโรคและสารเคมี ซึ่งถุงแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1. ถุงเคลื่อนย้ายแบบNegative Pressure Bag : NPB (ในรูปถุงสีใส) สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น โดยเก็บอากาศภายในเพื่อป้องกันอากาศออก ถุง NPB จะปรับความดันอากาศต่ำกว่าภายนอกทำให้อากาศจากภายนอกไหลเข้าสู่ด้านใน ทำให้เชื้อต่างๆ จะอยู่ภายในถุงไม่แพร่กระจายออกไป โดยอากาศบริสุทธิ์จะไหลผ่านรูอากาศ และถูกดักจับด้วยฟิลเตอร์ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคผ่านออกไปยังถุงได้

2. ถุงแบบ Positive Pressure Bag : PPB (ในรูปถุงสีเขียว) สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ไม่มีเชื้อในพื้นที่ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยถ่ายเทอากาศออกไปด้านนอกถุง PPB ใช้ในสถานการณ์ที่สิ่งแวดล้อมรอบด้านเป็นพิษ เราจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยอยู่ในถุงที่ปลอดภัย และปรับความดันภายในถุงให้เป็นบวก ดังนั้นอากาศภายนอกจะไม่สามารถเข้าด้านในได้โดยอากาศภายนอกนั้นจะถูก Feed ให้กับผู้ป่วยในถุงโดยผ่านไส้กรองเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ ส่วนวัสดุห่อหุ้มโครงสร้างถุง เป็นวัสดุพลาสติกทางการแพทย์ ซึ่งทำหน้าที่ในการห่อหุ้มและป้องกันไม่ให้อากาศด้านในไหลออกสู่ด้านนอก โดยวัสดุห่อหุ้มนั้นจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนผ้าใบห่อหุ้มด้านล่างและส่วนพลาสติกใสในการห่อหุ้มตัวโครงสร้างด้านบนทั้งหมด ถุงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมีขนาดมาตรฐาน ประมาณ 60 ซม. x 200 ซม. x 70ซม. มีที่จับสามารถขนย้ายผู้ป่วยได้สะดวก ปลอดภัยและติดตั้งระบบกรองและถ่ายเทอากาศ รวมถึงปรับความดัน นอกจากนี้ ยังมีช่องทางที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงผู้ป่วยที่อยู่ด้านในได้

ด้าน ดร.สุเมธ ยืนยง อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ พร้อมคณะ ได้จัดทำระบบ AI คัดกรองข่าวปลอมในเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา กล่าวว่า ในภาวะโรคแพร่ระบาด หรือ วิกฤติฉุกเฉิน ข่าวสารมีบทบาทสำคัญยิ่งในการกู้วิกฤติและทำให้เกิดพลังความร่วมมือร่วมใจของสังคมไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จ การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สื่อต่างๆ โดยเฉพาะ โซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้นำเสนอข่าว ส่งผลให้ประชาชนเกิดการตื่นกลัวและวิตกกันเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามบทความและข่าวสารบนโลกโซเชียลนั้นมีความหลากหลายในเรื่องของเนื้อหา สาระ และความถูกต้อง โดยจะมีเนื้อหาทั้งข้อเท็จจริง ความคิดเห็นส่วนตัว และข่าวปลอม (Fake News) ซึ่งการนำเสนอข่าวปลอมเป็นพฤติกรรมหนึ่งที่ทำให้เกิดยอด Likeและ Share ให้แก่เจ้าของเพจเป็นอย่างดี เพื่อความถูกต้องของผู้รับสาร รัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม หรือ Anti-Fake News Center Thailand ขึ้น เพื่อเผยแพร่ข่าวสารที่มีข้อเท็จจริง และสร้างความถูกต้องแก่ประชาชน โดยจากการมอนิเตอร์และรับแจ้งเรื่องเกี่ยวกับประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019ระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม 2563 พบว่า มีจำนวนข้อความที่แจ้งเข้ามาทั้งสิ้น 7,587 ข้อความ แต่มีจำนวนที่ต้องตรวจสอบยืนยัน (Verify) 160 ข้อความ โดยพบว่ามีข่าวที่เกี่ยวข้องโดยตรง 26 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 22 เรื่อง และข่าวจริง 4เรื่อง เท่านั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถยับยั้งข่าวปลอมที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ไปอย่างรวดเร็วได้ ทางคณะ จึงได้คิดค้นนวัตกรรม ระบบ AI คัดกรองข่าวปลอมในเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 คาดจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ตรวจจับข่าวปลอม










กำลังโหลดความคิดเห็น