วิศวะ มธ. พัฒนาแอปพลิเคชัน “Pamba Share Ways” ช่วยจับคู่การเดินทางร่วมกัน ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและแท็กซี่ หวังช่วยลดปัญหาจราจรติดขัด มลพิษในอากาศ คว้ารางวัลโล่เกียรติยศและเหรียญทอง เวทีการประกวดนวัตกรรมนานาชาติที่กรุงเจนีวา เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วทังไอโอเอสและแอนดรอยด์
ผศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า ปัญหาด้านการคมนาคม การจราจรติดขัด และปัญหาสุขภาพจากมลพิษบนท้องถนน เป็นปัญหาที่ต้องรับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประกอบกับปัจจุบันกระแสโลกที่มุ่งเน้นทางด้านความยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแอปพลิเคชันระบบแบ่งปันการสัญจร (Journey Sharing) เพื่อแก้ปัญหาปริมาณรถยนต์บนท้องถนนที่มีจำนวนมากเกินไป และต่อยอดจนสำเร็จเป็นแอปพลิเคชัน “แพมบา แชร์เวย์ส” (Pamba Shareways) หรือ โปรแกรมสำหรับจับคู่การเดินทางร่วมกันแบบอัตโนมัติทางรถยนต์ส่วนบุคคลและรถแท็กซี่ด้วยฐานเวลาปัจจุบัน ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันในรูปแบบให้บริการทั้งส่วนบุคคลทั่วไป องค์กรของรัฐ และองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม มีเป้าหมายในการลดปัญหาด้านการคมนาคมและมลภาวะในอากาศในระยะยาว โดยยึดหลักเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน หรือการแบ่งปันการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและพันธกิจสำคัญด้านหนึ่งของ มธ. คือ การสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศชาติในด้านสิ่งแวดล้อม
ผศ.ดร.นพพร กล่าวว่า หลักการทำงานของแอปพลิเคชันแพมบา แชร์เวย์ส คือ ระบบจะทำการค้นหาและจับคู่ผู้ที่ต้องสัญจรโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะ อาทิ แท็กซี่ ที่มีพื้นที่ว่างในรถ กับผู้ที่ต้องการสัญจรไปในทางเดียวกันแบบอัตโนมัติ ซึ่งเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลจะได้ค่าตอบแทนจากการแบ่งปันพื้นที่ในการร่วมสัญจร ในอีกมุมหนึ่งผู้ที่ร่วมสัญจรจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายที่น้อยลง ช่วยลดปริมาณรถยนต์และลดการสร้างมลภาวะจากการแบ่งปันการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ในด้านของความปลอดภัย แพมบา แชร์เวย์ส มีฟังก์ชันตรวจสอบข้อมูลเพื่อนร่วมทาง ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลของผู้ใช้แอปพลิเคชันที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนการตัดสินใจร่วมสัญจร อีกทั้งยังมีห้องแชต (Chat Room) เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อเพื่อหาข้อมูลของผู้ร่วมสัญจรเพิ่มเติม หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง ซึ่งสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
“ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นเมืองที่มีปัญหาการจราจรมากที่สุดในอาเซียน และมักติดอันดับต้นๆ ในโลกเสมอ ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานทางถนนของ กทม. สามารถรองรับจำนวนรถได้ราว 4 ล้านคัน แต่ กทม. มีจำนวนรถกว่า 6 ล้านคัน ซึ่งมีจำนวนที่นั่งเฉลี่ยประมาณ 4 - 6 ที่นั่งต่อคัน แต่กลับมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพียง 2 ที่นั่งต่อคันเท่านั้น ซึ่งนอกจากปริมาณรถที่มากเกินความสามารถในการรองรับของถนนใน กทม. จะส่งผลให้จราจรติดขัดแล้ว ยังเป็นการสร้างมลภาวะทางอากาศ จากการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสภาวะโลกร้อนและทำลายสุขภาพของประชาชน โดย แพมบา แชร์เวย์ส จะเป็นหนึ่งในทางออกที่จะสามารถช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี” ผศ.ดร.นพพร กล่าว
ผศ.ดร.นพพร กล่าวว่า สำหรับมหาวิทยาลัยหรือองค์กรต่างๆ ที่มีการใช้รถตู้ และต้องการมีส่วนร่วมในด้านลดปัญหาด้านการคมนาคมและมลภาวะในอากาศ สามารถนำ “แพมบา แชร์เวย์ส” ไปใช้ในการแบ่งปันเส้นทางในการเดินทางของบุคลากรหรือการส่งของ ที่ปกติอาจไม่มีระบบในการรวบรวมเส้นทางที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด วัน เวลา เป็นต้น ซึ่งจะช่วยทำให้การใช้ทรัพยากรขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสามารถและปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
ทั้งนี้ แพมบา แชร์เวย์ส เป็นผลงานเดียวที่ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศ จากนครเมืองเจนีวา (Prize on stage granted by the City of Geneva) ซึ่งเป็นรางวัลระดับสูงสุดที่ประเทศไทยได้รับ และรางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) จากเวทีการประกวดนวัตกรรมนานาชาติครั้งที่ 46 (46th International Exhibition Invention Geneva) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย “แพมบา แชร์เวย์ส” ได้เปิดให้ดาวน์โหลดและใช้บริการฟรี ทั้งในระบบแอนดรอยด์ (Android) และไอโอเอส (IOS) รวมถึงสามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์ www.pambashare.com คณะผู้วิจัยได้เริ่มพัฒนาแอปพลิเคชันนี้มาตั้งแต่ปี 2559 และมีแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้ทดสอบโดยการปล่อยให้มีการดาวน์โหลดและใช้งานในปลายปี 2560 มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 3,000 คน ส่วนในระดับองค์กรมีแผนจะเริ่มให้บริการกับบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อน และมีเป้าหมายให้ แพมบา แชร์เวย์ส ถูกใช้อย่างแพร่หลายในอนาคต เพื่อเป็นการลดปริมาณรถและมลภาวะในอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ