5 บัณฑิตชาวกัมพูชา ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานทุนการศึกษา จนสำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
บัณฑิตชาวกัมพูชา จำนวน 5 ราย ที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2561 จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 45 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับบัณฑิตของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2563 ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
นายเอิวเลียง กึม บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย จบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หนึ่งในผู้ได้รับทุนการศึกษาในโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ปัจจุบันเป็นพนักงาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ประเทศไทย
ตนมาจากกรุงพนมเปญ ตอนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ตนได้รับการสนับสนุนจากคนรอบตัว เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ สาขาเอกภาษาไทย เพราะผมมีความรักในด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาษาเขมรมาตั้งแต่โบราณ
เมื่อเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้ผมได้รับความรู้และพัฒนาความสามารถ ซึ่งเป็นสิ่งมีค่าที่สุด ทำให้ผมประสบความสําเร็จทั้งการศึกษาและการใช้ชีวิต ในอนาคตผมจะนำความรู้ไปเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับคนกัมพูชา
สำหรับเคล็ดลับในการเรียน ต้องเริ่มจากการรู้จักบริหารเวลาในการเรียนของแต่ละวันให้ดี เช่น ทบทวนสิ่งที่เรียนมา อ่านหนังสือสำหรับวิชาพรุ่งนี้ ใช้ความพยายามและความมุ่งมั่นพาเราไปถึงจุดมุ่งหมาย ให้สมกับที่ได้รับทุนพระราชทานฯ การที่ได้รับทุนพระราชทานฯและต้องมาเรียนที่ประเทศไทยทำให้ผมได้รู้จักวัฒนธรรมอันสวยงามของไทย ประสบการณ์ดีๆจากการชีวิตในเมืองไทย และช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวด้วย
น.ส.เสรยเลียะ ตุ๊ซ บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย กล่าวว่า ปัจจุบันทำงานอิสระรับจ้างแปลเอกสาร เป็นล่ามกองถ่ายทำละครและโฆษณาที่กัมพูชา ที่เลือกเรียนสาขาวิชาภาษาไทย เพราะชอบภาษาไทย อยากรู้ อยากอ่านออก เขียนได้ และเข้าใจความหมายของภาษาไทยอย่างถูกต้อง การได้รับทุนการศึกษาครั้งนี้ ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าที่พัก ค่าอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการศึกษา
เมื่อเข้ามาเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ ดิฉันได้รับความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมไทย สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ได้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีความกล้าขึ้น รู้จักเพื่อนใหม่ มีอาจารย์ผู้ดูแลที่เอาใจใส่อย่างดี รู้สึกดีใจและอบอุ่นใจที่ได้มาเรียนที่ ม.รามคำแหง ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายว่า หลังจากที่เรียนจบแล้ว จะนำความรู้ภาษาไทยที่ได้เรียนมาไปใช้ในการทำงาน ซึ่งตอนนี้ได้รับจ้างแปลเอกสาร เป็นล่ามกองถ่ายทำละคร
วันนี้รู้สึกดีใจและภูมิใจที่เรียนจบได้สำเร็จ เป็นผลมาจากความตั้งใจเข้าเรียน ฟังบรรยายจากอาจารย์ในห้องเรียนแล้วกลับมาศึกษาเพิ่มเติม หากไม่เข้าใจตรงไหนก็จะกลับไปถามอาจารย์ใหม่อีกครั้ง การได้รับทุนพระราชทานฯ ทำให้ต้องมาใช้ชีวิตต่างประเทศ เป็นความท้าทายที่เกิดขึ้น ทั้งการใช้ภาษาไทย การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ภาษาไทย และภาษาท้องถิ่นในแต่ละภาคของไทยที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป ดิฉันจะนำความรู้เหล่านี้ไปสร้างประโยชน์ให้สมกับที่เป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ
นายสุเขง วงศ์ บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว กล่าวว่า ขณะนี้เป็นมัคคุเทศก์อิสระ และทำธุรกิจส่วนตัวที่ประเทศกัมพูชา จากนั้นก็เล่าว่าผมได้รับคัดเลือกให้รับทุนพระราชทานฯทำให้มีโอกาสได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยซึ่งเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก และเลือกเรียนสาขาการท่องเที่ยว เพราะจะได้มีโอกาสพบเจอผู้คนที่มาจากหลายแห่ง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ วัฒนธรรม และมุมมองที่แตกต่างด้วย
“ทุนพระราชทานฯที่ได้รับครั้งนี้ช่วยเหลือในเรื่องค่าเล่าเรียน หนังสือ และที่พักอาศัย และการที่เรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมได้ความรู้จากอาดจารย์ที่ถ่ายทอดให้ ขณะนี้เดียวกันก็ได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวง และวัฒนธรรมไทยจากเพื่อนๆ คนไทยด้วย ซึ่งวัฒนธรรมของคนไทยซึ่งคล้ายกับคนกัมพูชา ทั้งนี้ การใช้ชีวิตที่ห่างจากครอบครัว สอนผมให้โตขึ้น ไม่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ความรู้จากอาจารย์ทุกท่านที่สอนมา และได้เห็นการพัฒนาประเทศไทย จะนำสิ่งเหล่านี้กลับไปช่วยพัฒนาประเทศกัมพูชา” นายสุเขง กล่าวต่อว่า ผมนำความรู้มาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ดูแลคนไทยที่มาเที่ยวประเทศกัมพูชาให้มีความสุขตลอดเส้นทางจนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ นอกจากนี้จะเป็นล่ามให้แแก่นักธุรกิจคนไทยด้วย
นายสีหอ มอน บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ประเทศไทย เผยว่า รู้สึกดีใจ และภูมิใจที่สุดที่ได้รับทุนพระราชทานฯ ตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือจนสามารถเรียนจบภายใน 3 ปี พร้อมกันนี้ ในระหว่างเรียนยังได้ประสบการณ์การใช้ชีวิต และเรียนรู้การปรับตัวในวัฒนธรรมไทย ถ้าหากมีโอกาสก็จะนำความรู้ไปช่วยพัฒนาประเทศของตนเองต่อไป
นายสุเพียะ เอง บัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี ปัจจุบันทำงานอิสระที่ กู๊ดส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นล่ามภาษาไทย-เขมร และเป็น MC Presenter ในประเทศไทย กล่าวว่า ผมรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้คัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยาก และได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตใหม่ๆ ความรู้ด้านเคมี ความรู้ภาษาไทย การเรียนรู้วัฒนธรรม ความรู้คู่คุณธรรม และความรู้เศรษฐกิจพอเพียง และความรู้อีกจำนวนมากที่อาจารย์ทุกท่านได้สั่งสอนมา หลังจากที่เรียนจบแล้ว ผมตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้ศึกษามาไปประกอบอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ สาขาเคมี ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยพัฒนาประเทศ