“ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว เป็นโครงการที่ดีนะคะ เพราะโครงการนี้ไม่ได้มอบแค่ผ้าห่มให้กับชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอื่น ๆ ที่นำไปมอบให้ด้วย และที่สำคัญคือสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักว่าการให้เป็นสิ่งที่ดี และเขาก็อยากจะสานต่อสิ่งที่ดีนั้น เหมือนมีโครงการนี้เป็นแบบอย่างน่ะค่ะ”
นางสาวจิรภิญญา คันทา หรือ “น้องมันนี่” นักศึกษาปี 1 จากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความคิดเห็นต่อโครงการ “ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว”
เธอคือหนึ่งในสมาชิกทีม Khod Mass Production ที่ส่งผลงานหนังสั้นเข้าร่วมประกวดในโครงการประกวดภาพยนตร์ขนาดสั้น ระดับอุดมศึกษา ความยาว 3-5 นาที ภายใต้แนวคิด BEYOND THE GREEN BLANKET…A SUSTAINABLE COMMUNITY OF GIVING “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นโครงการดี ๆ ที่ต่อยอดมาจากโครงการ “ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว”
โดยผลงานของเธอและสมาชิกรวม 5 ชีวิต ทั้ง นายนนทวัช บุญมี, นายภูริภัทร อยู่ใหม่, นางสาวสุชาวลี โพธิ์ทอง และ อติกันต์ แสงสีจันทร์ ได้ร่วมกันสร้างสรรค์หนังสั้นในชื่อว่า “Forward for U ส่งต่อความสุขให้คุณ” ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง
“จุดเริ่มต้นมาจากการที่พวกเราได้รวมทีมกันเพื่อหางานที่จะช่วยพัฒนาฝีมือค่ะ” น้องมันนี่เล่าถึงที่มาที่ไป
“ตอนที่เราหาโครงการจะเข้ากับเราหรือเพื่อน ๆ ได้ ก็มาเจอโครงการนี้ เรามองว่ามีเงินทุนให้ และสามารถพัฒนาศักยภาพของเราด้วย และมีงบออกกองด้วยค่ะ เราเลยมาทำหนังสั้นในโครงการนี้”
ขณะที่สารตั้งต้นของไอเดียในการทำหนังสั้นเรื่องนี้ขึ้นมา ตัวแทนสมาชิกจากทีม Khod Mass Production เล่าว่า มาจากถ้อยคำซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดของโครงการ นั่นก็คือ “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน”
“คำว่า สังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน แปลว่าเป็นการทำโดยที่ไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่เป็นการทำเพื่อต่อยอด แล้วการต่อยอดนี้ ก็จะเป็นรุ่นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่มองเห็นว่า สิ่งที่โครงการของไทยเบฟทำอยู่ มีประโยชน์จริง ๆ ก็เกิดการสานต่อการให้ที่ยั่งยืน”
และหลังจากที่รู้ว่าโปรเจ็กต์ที่ทีมของเธอนำเสนอ ได้รับการคัดเลือก ก็มีการประชุมวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไป พร้อมทั้งแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
“เนื่องจากพวกเรามารวมกันและทำงานนี้เป็นงานแรก สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ ความเข้าใจภายในทีม ต่างคนต่างก็พยายามที่จะขายความคิดของตัวเองเพื่อที่จะให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
นอกเหนือไปจากการได้ “พัฒนาฝีมือ” สมปรารถนาตามความตั้งใจของสมาชิกในทีมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งซึ่งนับว่ามีความหมายอย่างยิ่ง ซึ่งได้รับจากการลงมือทำงานชิ้นนี้ “น้องมันนี่” บอกว่า คือการได้เห็น “โลกอีกใบ” ที่ยังมีผู้คนอีกมากมายซึ่งยังขาดแคลน
“ด้วยความที่เราอยู่ในชุมชนเมือง อยู่ในพื้นที่ที่พัฒนาแล้ว พอเราไปถ่ายทำ เหมือนกับว่าไปอีกโลกหนึ่งเลยค่ะ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน เรารู้สึกว่าเด็กเหล่านั้นยังขาดหลายสิ่งหลายอย่าง เราก็เลยอยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือ อยากให้เขามีแบบที่เรามี แล้วก็รู้สึกว่าการให้มันยิ่งใหญ่จริง ๆ เพราะว่าเราอยู่ในบริบทที่รับมาตลอด พอไปถึงที่นั่น คือสลับกันเลยนะ เรารู้สึกว่าอยากให้เขา เพราะว่าในพื้นที่ที่เขาอยู่ มันต่างจากที่เราเป็น และเราอยากให้เขาเป็นเหมือนเรา อยากให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“อีก 20 ปีข้างหน้า หนูอยากให้มีสังคมที่ไม่เหลื่อมล้ำค่ะ เป็นสังคมที่เราอยู่ด้วยกัน โดยที่ไม่มีใครจนหรือรวยมากจนเกินไป แล้วเด็กทุกคนควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียม”
สำหรับความฝันอันสูงสุดของตัวแทนจากทีม Khod Mass Production เธอบอกว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นผู้ให้ รวมทั้งส่งต่อพลังบันดาลใจให้คนอื่น ๆ อยากลุกขึ้นมาเป็นผู้ให้ จนก่อเกิดเป็นสังคมแห่งการให้และแบ่งปันอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
“หนูอยากให้คนที่ได้ดูหนังสั้นของพวกเราแล้วรู้สึกว่า เขาไม่อยากหยุดนิ่ง ไม่อยากเป็นแค่ผู้รับ อยากเป็นผู้ให้เพื่อส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่น และการให้มันไม่ใช่แค่ว่าต้องซื้อของแพง ๆ ให้ แต่การให้คือให้ด้วยน้ำใจ เพียงเท่านั้นก็มีความสุขและรอยยิ้มแล้ว”
ติดตามชมหนังสั้นเรื่อง “Forward for U ส่งต่อความสุขให้คุณ” และภาพเบื้องหลังการทำงานของน้อง ๆ ทีม Khod Mass Production ได้ทางเฟซบุ๊ก ThaiBev