สธ.คาดคนจีนจากอู่ฮั่นเหลือไม่ถึงหมื่นคน อาจทยอยกลับหมดใน 2 วัน ส่วนรับตัว นศ.ไทยในอู่ฮั่น หากไปรับได้ จะมีการประเมินอาการก่อนกลับ หากมีอาการจะแยกที่นั่งพิเศษ มีแพทย์คอยดูแล กลับมาเข้าระบบเฝ้าระวัง ส่วนคนไม่มีไข้ สามารถกลับบ้านได้ แล้วติดตามอาการจนครบ 14 วัน ชี้ปิดเมืองไม่ได้ออกไปไหนมาเกือบ 7 วัน โอกาสติดเชื้อน้อย
วันนี้ (30 ม.ค.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงคนจีนจากอู่ฮั่นที่ตกค้างในประเทศไทย ว่า ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่า ช่วงก่อนปิดเมือง คนจีนจากเมืองอู่ฮั่นมาประเทศไทยวันละ 5-7 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 1,200 คน โดยนักท่องเที่ยวก็มาประมาณ 5-7 วัน แต่ละวันน่าจะมีคนอู่ฮั่นอยู่ในไทยประมาณ 6,000 คน แต่พอครบ 5-7 วันก็เดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนปิดสนามบินเมืองอู่ฮั่นวันที่ 24 ม.ค.2563 ส่วนที่ตกค้างอยู่เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ท่าอากาศยานสุวรณภูมิสำรวจ พบว่า ตกค้างประมาณ 2 หมื่นกว่าคน เพราะไม่มีเที่ยวบินกลับ แต่จำนวนนี้ก็เริ่มทยอยกลับแล้ว โดยไปลงสนามบินเมืองอื่นใกล้เคียง ตอนนี้น่าจะเหลือไม่กิน 1 หมื่นคน และอยู่ระหว่างสายการบินจีนประสานเพื่อให้เดินทางกลับ เพราะหลายคนต้องกลับไปทำงาน ส่วนคนที่อยู่ก็ติดตามดูว่า มีอาการป่วยหรือไม่ ถ้ามีก็วินิจฉัยรักษา แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครป่วยรุนแรง คิดว่าน่าจะกลับหมดภายใน 1-2 วันนี้ เพราะคาดว่าจีนอาจจะเปิดสนามบินวันที่ 3 ก.พ.นี้ แต่ต้องติดตามว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
เมื่อถามถึงระบบกรณีรับตัวนักศึกษาไทยกลับมาจากอู่ฮั่น นพ.โสภณ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นการปิดเทอมอยู่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามว่าใครอยู่ที่ไหนบ้าง โดยในเมืองอู่ฮั่น มีนักศึกษาประมาณ 60 กว่าคน ซึ่งหลังจากจีนประกาศปิดเมือง ปิดระบบขนส่งสาธารณะ นักศึกษาก็อยู่บ้าน พอออกจากบ้านก็มีการสั่งให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย โอกาสรับเชื้อจึงน้อย และยังอยู่ในวัย 20 กว่าๆ ก็มีความแข็งแรง ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ป่วยอะไร การติดต่อของโรคก็ลดลงโดยอัตโนมัติ โดย สธ.ก็เข้าไปอยู่ในกรุ๊ปวีแชตของนักศึกษาไทย และคอยสอบถามว่าป่วยหรือไม่ หากป่วยก็ให้แนะนำตัว แต่ไวรัสโคโรนานี้เท่าที่ดู คนอายุน้อยอาการไม่รุนแรง คนเสียชีวิตมักเป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เบาหวาน หัวใจ ไตวายเรื้อรัง ดังนั้น คนอายุ 20 กว่าปี ไม่มีโรคประจำตัวอะไร ก็ไม่เสี่ยงมาก ป่วยก็หายเองได้ แต่แยกจากคนอื่น ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่มีใครป่วย
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนวันไปรับกลับมา จะมีการตรวจสอบว่ามีอาการป่วยหรือไม่ ถ้าป่วยก็จะดูแลพิเศษ และแยกที่นั่ง ซึ่งสายการบินที่รับมอบหมายเตรียมเครื่องบิน ก็บอกว่าจะประเมินเตรียมที่นั่งพิเศษสำหรับคนมีอาการทางเดินหายใจ และแพทย์ที่ไปด้วยก็จะช่วยประเมินอาการได้ เมื่อกลับมาก็เข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง แต่หากไม่ป่วยเมื่อกลับมาก็ต้องอยู่ในสถานที่สามารถติดตามวัดไข้ได้ครบ 14 วัน ตามมาตรฐาน ซึ่งมองว่าสามารถกลับบ้านได้ จะมีการแจกปรอทวัดไข้กลับไปติดตามอาการทุกวันจครบกำหนด ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าไปเฝ้าระวังในโรงพยาบาล เพราะไม่มีอาการไข้ ที่สำคัญเขาอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ช่วงปิดเมือง ซึ่งปิดมา 6-7 วันแล้ว ส่วนใหญ่ระยะฟักตัวของเชื้อไม่เกิน 7 วัน หากขึ้นเครื่องกลับมา ก็วันที่ 8-9 แล้ว การไม่ป่วยก็ค่อนข้างปลอดภัยกลับไปอยู่บ้านได้ แต่อย่าออกไปไหน ให้ดูแลตัวเอง ก็คิดว่ากำลังพอเหมาะสำหรับมาตรการนี้