สธ.เฝ้าระวัง "ไวรัสอู่ฮั่น" เพิ่มในอีกหลายสิบเมืองของจีน หากมีอาการไข้ ไอ เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทันที เผยอุปกรณ์เครื่องมือยังเพียงพอ เพราะสายการบินไม่ได้มาพร้อมกัน แต่อาจต้องเพิ่มกำลังคน เตือนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค หากสื่อสารเร็วเกินไปอาจเข้าใจผิดได้
วันนี้ (25 ม.ค.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ขณะนี้เรามีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดเพิ่มเติม ซึ่งมีการอัปเดตข้อมูลและประกาศที่หน้าเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค ได้แก่ เอินซือ, เสี้ยวก่าน, เสียนหนิง, หวงสือ, เซียนเถา, เฉียนเจียง, จิ่นโจว, ลีฉวน, หวงกัง, ชื่อปี้, เอ้อโจว, จือเจียง, อู่ฮั่น และ เมืองกว่างโจว หากมีอาการทางเดินหายใจ คือ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตามเงื่อนไข ก็จะเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค มีการแยกตัว และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสูง 2 แห่ง ใช้เวลา 24 ชั่วโมงจึงจะทราบผล
“ในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการพบเคสผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอาจจะมีการสื่อสารเร็วเกินไปจนทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีเคสเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคราวๆ 50 กว่าราย แต่ที่เข้าเกณฑ์จริงๆ เป็นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คือ 5 ราย ส่วนใหญ่พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ เป็นอาร์เอสวีบ้าง หรือเป็นการป่วยจากเชื้ออื่นๆ” นพ.โสภณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ต้องคัดกรองเพิ่มอีก 10 เมือง เรื่องอุปกรณ์และกำลังคนเพียงพอหรือไม่ ต้องเพิ่มเติมส่วนใดอีกหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ในส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือยังใช้ได้อยู่ เพราะสายการบินไม่ได้ลงพร้อมกัน แต่เราจะประสานงานการท่าอากาศยานขอให้เที่ยวบินจากเมืองเสี่ยงลงจอดที่เกตเดิม หรือใกล้เคียง เพราะฉะนั้นเครื่องมือไม่จำเป็นต้องเพิ่ม แต่ในส่วนกำลังคนจะต้องหามาเพิ่ม เพราะปริมาณงานเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เท่า ของอัตราปกติ