กรมควบคุมโรค ยังไม่ยืนยันผู้ป่วยหัวหินเป็น "ไวรัสอู่ฮั่น" แจงต้องรอผลรอบด้าน ก่อนนำเข้าคณะทำงานพิจารณาประกาศทางการ เผยยังมีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีกกว่า 20 ราย มีโอกาสทั้งเป็นและไม่เป็น ขอให้รอติดตามผลอย่างเป็นทางการ อย่าลือเอง ย้ำหากยืนยันชัดเจน ไม่มีปิดข่าวแน่นอน
วันนี้ (25 ม.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า การจะประกาศว่าไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสอู่ฮั่นนั้น ให้รอการแถลงอย่างเป็นทางการจาก สธ.ว่ามีทั้งหมดกี่ราย ซึ่งเราไม่มีการปกปิด หากพบก็จะมีการให้ข้อมูลแก่สาธารณะแน่นอน และไทยยังต้องให้ข้อมูลแก่ทางองค์การอนามัยโลก ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศด้วยว่ามีผู้ป่วยกี่ราย
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับกรณีผู้ป่วยที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขอทำความเข้าใจว่า เป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) เนื่องจากเข้าเกณฑ์ทั้ง 3 ส่วน คือ มีไข้ อาการทางเดินหายใจ และมาจากอู่ฮั่น โดยผู้ป่วยมาขอรับบริการที่ รพ. เนื่องจากมีไข้ รพ.เมื่อตรวจสอบคัดกรองได้จึงแจ้งเข้ามา และได้นำผู้ป่วยเข้าห้องแยกโรคความดันเป็นลบตามปกติ และเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ส่วนการจะบอกว่าผู้ป่วยแต่ละรายยืนยันว่าเป็นป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่ ต้องพิจารณาข้อมูล 3 ด้าน คือ 1.อาการทางคลินิกว่าน้อยมากรุนแรงแค่ไหน 2.ข้อมูลทางระบาดวิทยา ติดเชื้อจากไหน สัมผัสกับใคร และ 3.ผลแล็บ ซึ่งเราไม่ได้ตรวจเฉพาะเชื้อนี้ แต่ตรวจเชื้อตัวอื่นควบคู่ด้วย เพราะหากไม่พบโคโรนาไวรัสก็ต้องหาตัวอื่นเพื่อรักษาคนไข้ให้หาย
"ข้อมูลทั้ง 3 ด้าน จะถูกนำเอามารวมและเข้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส ด้านระบาดวิทยา และด้านคลินิก พิจารณาร่วมกัน ถ้ายืนยันก็จะแถลงให้ทราบ แต่ผู้ป่วยรายที่หัวหินยังไม่ยืนยัน นอกจากนี้ เรายังมีผู้ป่วยภายใต้เกณฑ์การสอบสวนโรคอีกมาก 20 กว่าราย ก็จะทยอยพิจารณาไปเรื่อยๆ ซึ่ง หลายคนอาจไม่ใช่ หรือหลายคนอาจเป็นก็ได้ ขอให้รอแถลงการณ์จะดีที่สุด" นพ.สุวรรณชัยกล่าวและว่า แม้ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคแต่ละราย ที่เรายังไม่แถลงว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ทั้งหมดอยู่ในห้องแยกโรคความดันลบในสถานพยาบาล ไม่มีโอกาสแพร่ใส่ใครขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดทุกรายก็จะมีการติดตามว่า มีไข้ ไอ หรือไม่ และเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องแล็บเช่นกัน ซึ่งผู้ป่วย 4 รายที่ยืนยันทั้งหมดตรวจผู้ใกล้ชิดทุกราย ไม่มีไข้สบายดี ผลเป็นผลลบ กลับบ้านไปหมดแล้วในส่วนของผู้ใกล้ชิด
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ขอให้ประชาชนรับข่าวด้วยความเข้าใจ ขณะนี้ระบบคัดกรองของไทยสามารถตรวจจับได้ แต่การยืนยันต้องอาศัยข้อมูลรอบด้านแล้วถึงแถลง หรืออย่างกรณีข่าวกระยกเลิกระบบคัดกรองที่สนามบินก็ไม่จริง เราเพียงย้ายการคัดกรองมายังสายการบินตรงจากกว่างโจวแทน เราปรับมาตรการตามสถานการณ์ทั้งบ้านเราและประเทศจีน ซึ่งระหว่างปรับตามสถานการณ์จะเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ได้แปลว่าเราเลิก
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อพบผู้ป่วยที่มีไข้ มีประวัติการเดินทางจากเมืองที่ทางการจีนประกาศ ก็จะเข้าสู่ห้องแยกโรค นำเชื้อตรวจสอบว่า มีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ หากไม่มี เป็นไข้ปกติก็จะรักษาให้หายแล้วค่อยอนุญาตให้กลับออกจาก รพ.ได้ แต่หากพบเชื้อก็จะเข้าสู่ระบบการแยกโรค จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือปลอดเชื้อใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีข่าวการรายงานผู้ป่วยเข้าเกณฑ์หลายพื้นที่ในประเทศไทย นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า หลักการทั่วไปขอให้ฟังข่าวยืนยันจาก สธ. เราไม่ได้ปกปิดข้อมูลอะไร เมื่อเจอเคสที่ใช่ สธ.ก็บอกหมด ดังนั้น แทนที่จะตระหนกกับข่าวที่รวดเร็ว บ้างก็จริง บ้างก็ไม่จริง ก็มาช่วยกันตระหนักรู้ เป็นหวัดป่วยก็อยู่บ้าน หากจำเป็นต้องไปข้างนอกก็สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ จริงๆ มันคือ โรคระบบทางเดินหายใจ ก็ป้องกันตามที่มีการแนะนำ ไม่ใช่แค่ป้องกันโรคไวรัสโคโรนาเท่านั้น ยังป้องกันโรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคอื่นๆในระบบทางเดินหายใจได้อีก
