วธ.หนุนงานชุมชนคุณธรรม-ชูประเพณียโสธร เล็งต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ยโสธร ว่า ขณะนี้ จ.ยโสธร ได้ขับเคลื่อนการส่งเสริมให้เป็น จังหวัดคุณธรรมตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ซึ่งมีองค์กรคุณธรรม จำนวน 254 แห่ง อำเภอคุณธรรม 9 แห่ง และชุมชนคุณธรรม จำนวน 200 แห่ง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจเยี่ยมชุมชนคุณธรรมวัดอัครเทวดามีคาแอล ซ่งแย้ ได้สะท้อนภาพถึงความสามารถขับเคลื่อนชุมชนที่มีศาสนิกชนของ 2 ศาสนา คือ พุทธและ คริสต์ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยคนในชุมชนมีความรักใคร่สามัคคีกันเป็นอย่างดี โดยชุมชนได้มีส่งเสริมงานประเพณีตามฮีต 12ของชาวอีสาน และยังมีประเพณีแห่ดาวที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ซึ่งตรงนี้สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของ จ.ยโสธร ได้อีกด้วย
"ในช่วงที่ จ.ยโสธรได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากพายุ โซนร้อน โพดุล และพายุดีเปรสชั่น คาจิกิทำให้โบสถ์อัครเทวดามีคาแอล ซ่งแย้ ที่เป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้รับความเสียหาย ตนจึงมอบหมายให้กรมศิลปากร เข้ามาบูรณะซ่อมแซมให้มีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะส่งเสริม พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญ" ปลัด วธ. กล่าว
นายกฤษศญพงษ์ เปิดโครงการพัฒนาและยกระดับงานสืบสานประเพณีบุญคูณลาน ตำนานข้าวอินทรีย์ วิถีวัฒนธรรมยโสธร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นงานประเพณีการสู่ขวัญข้าวของชาวอีสานที่มีมาแต่โบราณ ในการทำบุญรับขวัญข้าวหลังเสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยว เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชาวนา โดยในปีนี้จ.ยโสธร ได้ ร่วมกับประชาชนชาวอีสาน สืบสานประเพณีดังกล่าว อย่างยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของอาชีพชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ที่ทำงานหล่อเลี้ยงให้คนไทยมีข้าวรับประทานเป็นอาหารหลัก และยังสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศปีละเกือบ 8 ล้านตัน สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังมุ่งหวังที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับลูกหลานชาวนาไทย ซึ่งจะเป็นผู้สืบทอดอาชีพการทำนาในอนาคต
ทั้งนี้ วธ. พร้อมที่จะยกระดับการจัดงานประเพณีที่เป็นสิริมงคล และวัฒนธรรมอันดีงามที่เกี่ยวกับข้าว ให้ไปสู่สายตาประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลก และจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและเป็นรากฐานที่มั่นคงยั่งยืนให้แก่พี่น้องชาวนาผ่านทาง โครงการชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร โดยให้ความรู้ความเข้าใจให้แก่ชาวนาในการทำเกษตรอินทรีย์ และทำให้สามารถต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากการทำนา ด้วย