"อนุทิน" มอบ สสจ. - อสม.เร่งสำรวจจำนวนผู้รับอันตรายจากสารเคมีเกษตรทุกครัวเรือน สั่งสำรวจ 2 ครั้ง ม.ค.ให้เสร็จใน 2 สัปดาห์ ก่อนส่งถึงมือรัฐบาล อีกครังใน ก.ค.นี้ พร้อมให้ตั้ง คกก.โรคจากการประกอบอาชีพใน 16 ม.ค.นี้
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมผู้บริหาร สธ.ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เพื่อสั่งการเรื่องมาตรการตรวจสอบดูแลอันตรายจากการใช้สารเคมีในภาคเกษตร
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนและ สธ. ขอยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับอะไรก็ตามที่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ไม่เห็นด้วยในการใช้สารเคมีภาคเกษตรแล้วนำผลผลิตนั้นมาประกอบอาหารรับประทาน แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจก็ตาม ดังนั้น ตนขอให้สถานพยาบาลทุกระดับมีการตรวจสอบดูแล และรายงานจำนวนผู้ที่ได้รับอันตรายจากการใช้สารเคมีภาคเกษตรทุกรูปแบบของการสัมผัส และเป็นเรื่องดีที่กรมควบคุมโรคได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัทที่ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้ร่วมกันสำรวจข้อมูล และให้ความรู้โน้มน้าวใจเพื่อให้เลิกใช้สารเคมีภาคเกษตรต่อไป ทั้งนี้ ขอให้กรมควบคุมโรคเป็นหน่วยงานรวบรวมอันตรายจากสารเคมีที่ได้รับรายงานจากสถานพยาบาลทั่วประเทศในระยะ 2 สัปดาห์ เพื่อที่ตนจะได้รายงานต่อไปยังรัฐบาล นอกจากนี้ ขอให้ นพ.สสจ. เตรียมบุคคลที่เหมาะสม เพื่อเสนอเป็นคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามแต่งตั้งภายในวันที่ 16 ม.ค.นี้ตามที่กฎหมายกำหนด
"สธ.มีนโยบายให้ ปี 2563 เป็นปีแห่งอาหารปลอดภัย และสนับสนุนการเกษตรอินทรีย์ ยืนยันสนับสนุนการยุติการใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1 ล้านคนใช้แอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ สำรวจการใช้สารเคมีทางการเกษตร วิธีการทางธรรมชาติอื่นๆ ที่ปลอดภัย และข้อมูลการเจ็บป่วยที่คาดว่าอาจมาจากสารเคมี โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรวัยแรงงานซึ่งมีความเสี่ยงจากการสัมผัส มีความเป็นพิษต่อร่างกาย ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง เป็นการยกระดับระบบการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากสารเคมีทางการเกษตรให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ สามารถระบุพิกัดครัวเรือน เพื่อนำเข้าคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมจังหวัด นำไปวิเคราะห์ปัญหา วางแผน และหาแนวทางแก้ไขเพื่อยุติสารเคมีทางการเกษตรของพื้นที่ โดยสำรวจ 2 ครั้งพร้อมกันทั่วประเทศ ใน ม.ค.2563 และครั้งที่ 2 วันที่ 1 - 31 ก.ค. 2563" นายอนุทินกล่าว