อุทาหรณ์อันตรายต่อเล็บปลอม หมอผงะเจอผู้ป่วยสาวติดเชื้อที่กระดูกนิ้วโป้ง เสี่ยงนิ้วพิการ หมอผิวหนังชี้กาวมีสารที่อาจทำให้เกิดการแพ้ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
วันนี้ (16 ธ.ค.) นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบสลสิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพและข้อตวามผ่านเฟซบุ๊กถึงการรักษาคนไข้รายหนึ่งที่ติดเชื้อกระดูกนิ้วหัวแม่มือจากการไปต่อเล็บ โดยระบุว่า อุทาหรณ์ หญิงอายุ35ปี เมื่อ20วันก่อนไปทำเล็บร้านเสริมความงาม มีการขูดร่องเล็บและตัดแต่ง ต่อเล็บปลอมด้วยกาวตราช้าง อีกสามวันต่อมารู้สึกเริ่มปวด คิดว่าไปน่าเป็นอะไรมาก ต่อมาบวมมากขึ้น ซื้อยากินเอง ยุบลงเล็กน้อย ทิ้งระยะมาหลายวันทนเอา รู้สึกเป็นไข้ บวมแดง ร้อนลามจากปลายนิ้วไปถึงโคนนิ้วงอนิ้วไม่ได้ ปวดทรมานมาก จนต้องตัดสินใจเอาเล็บปลอมออก ทำให้เนื้อเยื่อขอบเล็บหลุดออกมาด้วย ปวดทนไม่ไหวจึงมาพบแพทย์
ส่งเอกซเรย์ที่มือพบว่า กระดูกนิ้วหัวแม่มือส่วนปลายเริ่มกร่อนเป็นลักษณะติดเชื้อที่กระดูก จนต้องเข้านอนในโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัด พบว่ามีหนองรอบๆเนื้อเยื่อหัวแม่มือ ลามเข้าข้อ กระดูก และให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด ใช้เวลารักษา อีกหลายวัน เสียค่าใช้จ่ายอีกหลายหมื่นบาท อีกทั้งมีโอกาสเสี่ยงพิการงอนิ้วหัวแม่มือไม่ได้ตามมา นอกจากนั้นต้องตรวจหาว่าติดเชื้อHiv ร่วมด้วยหรือไม่? เพราะเคยมีรายงานการติดเชื้อเอดส์จากการทำเล็บมาแล้วแต่งเล็บจึงต้องพึงระวัง เครื่องมืออาจไม่สะอาด หรือผ่านการใช้งานมาจากหลายๆคน แล้วไม่ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างเพียงพอ จนติดเชื้อได้
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า การใช้เล็บพลาสติก เพื่อให้เล็บยาวขึ้นจะต้องใช้กาวเพื่อยึดติด ในกาวมักมีสารที่อาจก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้สัมผัสได้ มีรายงานในบางรายพบว่าเกิดอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบหรือหอบหืด พบอาการเล็บเปราะหรือเกิดการแยกเป็นโพรงที่ปลายเล็บ การที่ชั้นของเล็บแยกออกจากกันทำให้โครงสร้างของเล็บไม่สามารถป้องกันเชื้อโรค อาจติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียได้ ส่วนการต่อเล็บโดยใช้อะครีลิค การต่อเล็บชนิดนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อที่เล็บในบางรายพบว่าสีของเล็บเปลี่ยนแปลงไป หรือพบมีสะเก็ดขุยที่ใต้เล็บเพิ่มมากขึ้น มีรายงานว่าทำให้เกิดอาการชาที่ปลายประสาททำให้เกิดผื่นแพ้สัมผัส หรือบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น บริเวณเปลือกตา บางรายมีอาการหอบหืด