xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงใช้ "กัญชา" ร่วมยาต้านเอดส์ ทำคุมไวรัสไม่ได้ผล แจงลดปวดไม่ได้ดีกว่ายาหลอก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ จัดเสวนา พบ "กัญชา" ยังไม่มีหลักฐานรักษามะเร็ง หรือมีประสิทธิภาพเพียงพอในการลดปวดหลายๆ อาการ ทั้งปวดจากมะเร้ง เส้นประสาท ปวดศีรษะ คุณภาพไม่ได้ต่างจากยาหลอก ห่วงใช้คู่กับยาต้านไวรัสเอชไอวี เสี่ยงประสิทธิภาพคุมไวรัสลดลง

วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่อาคารเฉลิมพระบารมี ๕๐ ปี ซอยศูนย์วิจัย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมแพทย์วิชาชีพต่างๆ จัดงานเสวนาเกี่ยวกับกัญชา เพื่อสื่อสารให้เพื่อให้ประชาชนตระหนักและเข้าใจมากยิ่งขึ้น


ผศ.นพ.เอกภพ สิระชัยนันท์ นายกมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สารสกัดกัญชายังไม่มีหลักฐานการศึกษาที่ชัดเจนพอจะใช้รักษาโรคมะเร็ง และไม่แนะนำให้เป็นการรักษาจำเพาะสำหรับโรคมะเร็งที่มีแนวทางการรักษามาตรฐานอยู่แล้ว เนื่องจากการศึกษาในมนุษย์ยังไม่แสดงประสิทธิภาพในการควบคุมโรคมะเร็งชัดเจน และการศึกษาส่วนใหญ่ยังทำในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง และปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่า การใช้กัญชาสามารถนำมาใช้ต้านโรคมะเร็ง มีแค่หลักฐานที่จำกัดว่า กัญชามีฤทธิ์บรรเทาความเจ็บปวดหรือลดการคลื่นไส้อาเจียนได้ เมื่อเปรียบเทียบกับยาขนานเก่าที่ไม่ใช่มาตรฐานในปัจจุบัน ในเรื่องอาการปวดจากมะเร็ง พิจารณาเป็นการรักษาเสริมกับยาแก้ปวดแผนปัจจุบัน เมื่อได้รับยากลุ่มโอปิออยด์ในขนาดสูงแล้วยังควบคุมอาการปวดไม่ได้ นอกจากนี้ ต้องคำนึงข้อจำกัดและความเสี่ยง คือ สารสกัดกัญชามีผลต่อความสามารถในด้านการรับรู้และการตัดสินใจ และยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสมต่อการรักษาตามข้อบ่งชี้และความเป็นพิษของยา


ศ.นพ.วิชัย อิทธิชัยกุลฑล กรรมการบริหารสมาคมการศึกษาเรื่องความเจ็บปวดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ มีความคิดเห็นและข้อเสนอการนำสารสกัดกัญชามาใช้เพื่อระงับปวด ว่า สารสกัดกัญชายังมีหลักฐานที่ไม่ชัดเจนเพียงพอว่า ช่วยลดความเจ็บปวดในหลายๆ อาการ และประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างจากยาหลอกหรือเหนือกว่ายาหลัก เช่น การใช้เพื่อระงับปวดจากมะเร็ง การดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคอง การลดอาการปวดจากความผิดปกติของเส้นประสาท การลดอาการปวดศีรษะ เป็นต้น ส่วนการใช้ลดอาการปวดจากโรคปลอกประสาทระบบประสาทส่วนกลางที่เกิดจากโรคมัลติเพิลสเตอโรซีส (เอ็มเอส) มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้เป็นการรักษาเบื้องต้น ควรใช้หลังจากใช้ยารักษาตามมาตรฐานไม่ได้ผลหรือเกิดผลข้างเคียง ส่วนการลดอาการปวดเรื้อรังจากกระดูกและกล้ามเนื้อต้องติดตามหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อไปในอนาคต

ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ กรรมการบริหารสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กัญชากับการรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากปัจจุบันยาต้านไวรัสมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตได้นานใกล้เคียงหรือเท่าคนปกติและไม่แพร่กระจายเชื้อ แม้มีการศึกษาพบว่า กัญชาลดการอักเสบในร่างกายและอาจลดปริมาณไวรัสได้เร็วในผู้ที่กำลังรักษาด้วยยาต้านไวรัส แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า การรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีด้วยกัญชาทำให้ระดับไวรัสต่ำได้นาน ระดับภูมิคุ้มกันหรือ CD4 สูงขึ้น และชีวิตผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวียืนยาวมากขึ้นเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาต้านมาตรฐาน ดังนั้น ปัจจุบันการรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุด หากใช้กัญชาร่วมกับยาต้านไวรัส อาจจะทำให้ระดับยาต้านบางตัวลดลงอย่างมาก เช่น ยากลุ่ม protease inhibitor บางตัว จนอาจทำให้การรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีไม่ได้ผล นอกจากนี้ กัญชาอาจทำให้อาการทางระบบประสาทมากขึ้นในผู้ที่ได้รับยาต้านไวรัสบางชนิด และมีการศึกษาที่พบว่าผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีหากสูดกัญชาทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่ปอดได้มากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น