ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ขอบคุณสิทธิบัตรทองช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกครั้ง ยืนยัน “ล้างไตผ่านช่องท้อง” ทำได้ทุกคน ง่าย-สะดวก-รวดเร็ว-ฟรี แนะคนไข้รายใหม่ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรยากอย่างที่คิด
นางทองศรี อันดา ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ใช้วิธีการล้างไตผ่านช่องท้อง ภายใต้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เปิดเผยว่า ตอนล้มป่วยก็รู้สึกว่าเหตุใดเรื่องร้ายๆ ต้องมาเกิดขึ้นกับเรา แต่พอเข้ารับการรักษาก็ทำให้เรารู้สึกว่าดีขึ้น โดยเมื่อปี 2554 ที่ป่วยแรกๆ ยังคิดว่าเป็นโรคไตเฉยๆ คงไม่รุนแรงอะไร จนกระทั่งปี 2559 มีอาการเพลียมาก เป็นไข้บ่อย พอปี 2560 รับประทานอาหารไม่ได้ จนกระทั่งปี 2561 ผมร่วงจนต้องไปพบแพทย์ พอผลตรวจปรากฏว่าเป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย
“ตอนนั้นคุณหมอส่งเข้าห้องฟอกไตเลย ใช้เครื่องล้าง จนเวลาผ่านไปราวๆ 2-3 เดือน ตอนนั้นเสียเงินสัปดาห์ละ 4,500 บาท เราก็รู้สึกว่าจ่ายไม่ไหว เพราะลูกก็ยังเรียนหนังสือ คุณหมอเลยให้คำแนะนำว่ายังมีอีกวิธีหนึ่งคือการล้างไตผ่านช่องท้อง ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมาก คือถ้าอยู่ก็อยู่ ถ้าจะไปก็ไป แต่ปรากฏว่าพอล้างผ่านช่องท้องแล้วกลับดีขึ้นมาก มีเรี่ยวแรง เย็บผ้า ขายของได้” นางทองศรี กล่าว
นางทองศรี กล่าวว่า ตอนแพทย์อธิบายว่าล้างไตผ่านช่องท้องต้องทำอย่างไร เมื่อได้ฟังแล้วก็กังวลและรู้สึกกลัวมาก โดยเฉพาะการติดเชื้อ และเราเคยมีประสบการณ์ได้พูดคุยกับคนที่เคยติดเชื้อด้วยก็ยิ่งทำให้กลัว แต่ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่ล้างไตผ่านช่องท้อง เขาบอกว่าไม่ต้องกลัว มันง่ายกว่าฟอกด้วยเครื่องอีก เลยตัดสินใจว่าเอาก็เอา ล้างหน้าท้องแล้วกัน สุดท้ายก็ดีขึ้น
“มันไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด ง่าย เร็ว แล้วเราทำงานอย่างอื่นได้หมดทุกอย่าง ไม่เหมือนกับใช้เครื่อง แบบนั้นมันทั้งเหนื่อย เพลีย แต่ล้างเองอย่างมากกว่าครึ่งชั่วโมง ไม่เกินชั่วโมงนึง พอล้างเสร็จก็ทำงานต่อได้เลย มันสะดวกกว่ากันเยอะ มันสะดวกกว่าไปโรงพยาบาล ไม่ต้องไปนั่งรอ ยืนยันว่าล้างหน้าท้องดีที่สุดกับเรา แต่เราต้องรู้จักดูแลตัวเองหน่อยนึง ต้องรู้จักดูแลความสะอาด” นางทองศรี กล่าว
นางทองศรี กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ก็ใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม เพราะว่าทำงานหนักไม่ได้ แต่ในความโชคร้ายก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง นั่นก็คือมันทำให้เราเริ่มดูแลตัวเองดีขึ้น ระวังตัวมากขึ้น ซึ่งประสบการณ์ที่ตัวเองได้รับสามารถนำไปถ่ายทอด-ให้คำแนะนำผู้ป่วยรายอื่นๆ ได้อีก
“มีผู้ป่วยรายใหม่มาถามเยอะ เราก็บอกไปเลยว่าไม่ต้องกลัว เพราะตอนแรกๆ เราก็กลัวเหมือนกันนี่แหละ เรากลัวมาก กลัวทำไม่เป็น กลัวทำไม่ได้ กลัวติดเชื้อ กลัวทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้น่ากลัวเลย แล้วใครก็ทำได้ ที่สำคัญก็คือไม่มีค่าใช้จ่าย น้ำยาเขาก็มาส่งถึงบ้านด้วย เจ้าหน้าที่ก็ดูแลดี ทราบว่า รัฐโดย สปสช.และโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เป็นคนดูแล อยากจะขอบคุณเขามากๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยแข็งแรงขึ้น ทำให้เรากลับมาใช้ชีวิตและทำงานได้อีกครั้ง” นางทองศรี กล่าว