บอร์ด สปสช.ตรวจความพร้อมคลินิกพยาบาล 3 แห่ง เข้าร่วมระบบบัตรทอง ให้บริการป้องกันโรค รักษา ฉีดยา ทำแผล เยี่ยมบ้านผู้ป่วย เผยปีแรกนำร่อง 38 แห่งใน กทม. ก่อนขยายสู่จังหวัดอื่น
รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล และกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กทม. 3 แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามวิชาชีพ ประชาชนได้รับความสะดวก ลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยคลินิกการพยาบาลฯ จะเน้นการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค รักษาพยาบาล การฉีดยา การทำแผล และการเปลี่ยนสายให้อาหาร เยี่ยมบ้านผู้ป่วยร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เบื้องต้น ปีนี้ยังเป็นการนำร่องเฉพาะในพื้นที่กทม.ก่อน 38 แห่ง ขณะนี้เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการร่วมในระบบหลักประกันฯ แล้ว 3 แห่ง อยู่ระหว่างขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ที่ผ่านมาได้มีการเชิญผู้ประกอบการคลินิกการพยาบาลฯ มาร่วมรับฟังข้อมูลและชี้แจงหลักเกณฑ์การเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการร่วมแล้ว ส่วนหนึ่งมีความพร้อมและมองว่าเป็นการบริการที่สามารถทำได้ เพราะหลายแห่งมีการให้บริการที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์อยู่แล้ว
“วันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมเพื่อประเมินความพร้อมของคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์ ซึ่งต้องมั่นใจว่าสามารถให้การดูแลประชาชนอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานภายใต้กรอบวิชาชีพการพยาบาลได้ และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีคลินิกการพยาบาลฯ ที่สมัครเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น และภายหลังจากการดำเนินการแล้ว 1 ปี จะมีการประเมินผล โดยอนาคตจะมีการขยายไปยังคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์ในพื้นที่ต่างจังหวัดต่อไป” นายกสภาการพยาบาล กล่าว
พ.จ.อ.หญิงปาริชาด ชาญศรี ผู้ประกอบการปาริชาดคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์ กล่าวว่า ทำงานเป็นพยาบาลมานานแล้ว ดูแลคนไข้ที่โรงพยาบาล คลินิก และประจำที่โรงงาน อยากใช้วิชาชีพพยาบาลเป็นประโยชน์ จึงออกมาเปิดคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์ เลือกที่ตั้งอยู่ในชุมชน ห่างจากคลินิกการแพทย์และโรงพยาบาล ให้บริการตามกรอบวิชาชีพพยาบาลที่เป็นการดูแลเบื้องต้น เช่น ตรวจทั่วไป ดูแลครรภ์ระยะเริ่มต้น ทำแผล ฉีดยาคุม และเย็บแผลที่ไม่ลึกถึงเอ็น และกล้ามเนื้อ เป็นต้น มีให้บริการผู้ป่วยนอกสถานที่บ้าง เช่น กรณีของแม่บ้านอยู่ชั้น 5 ที่แฟลตตำรวจ ซึ่งได้รับการผ่าตัดหลังและต้องทำแผลแต่ไม่สามารถเดินลงได้ ซึ่งคนไข้รู้สึกสะดวกไม่ต้องเสียเวลาไปที่โรงพยาบาล โดยที่คลินิกยังมีบริการตรวจสิทธิการรักษาพยาบาล และทำใบส่งต่อกรณีที่ต้องรักษาโดยแพทย์ ซึ่งช่วงแรกคนไข้ยังไม่มาก แต่เมื่อได้รับการบริการที่ดีทำให้มีการบอกต่อ คนไข้ก็เพิ่มมากขึ้น เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มียอดคนไข้อยู่ที่ 205 ราย
ส่วนสาเหตุที่สมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น เพื่อยกระดับบริการให้เป็นที่ยอมรับ และเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ในช่วงแรกกังวลว่าการเข้าร่วมจะทำให้ยุ่งยากหรือไม่ แต่จากที่ได้รับคำแนะนำจากสภาการพยาบาลก็มั่นใจว่า เรามีศักยภาพที่จะเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการร่วมได้ ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นด้วยกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพราะทำให้คนไทยมีสิทธิเข้าถึงการรักษา และได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม มีคุณภาพและมาตรฐาน