สช.แจงคำสั่งเพิกถอน ผอ.-ผจก. "กรุงเทพคริสเตียน" เป็นโมฆียะ ชี้พ้นหน้าที่ในตำแหน่งจนกว่ามีคำสั่งบอกล้าง แต่สถานะครูยังอยู่ ส่วนผอ.-ผจก.คนใหม่คุณสมบัติไม่ผ่าน ต้องแต่งตั้งใหม่ใน 15 วัน หากไม่ทำตามมีโทษตามกฎหมาย หากเคลียร์ปัญหาไม่จบ วุ่นวาย มีผลกระทบ อาจสั่งยุบบอร์ด ร.ร. แล้วเข้าคุมกิจการชั่วคราว
วันนี้ (8 พ.ย.) นายอรรถพล ตรึกตรอง รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ทำหนังสือสอบถามยังคงอยู่ในตำแหน่ง ผอ.และผู้จัดการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยหรือไม่ หลังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ทำหนังสือชี้ชัด การเพิกถอนไม่ถูกต้อง ว่า ในส่วนของนายศุภกิจและนายวัชรพงษ์ เท่าที่ตรวจสอบนั้นพบว่าเอกสารมีความย้อนแย้งกัน เช่น เรื่องของการถอดถอน ปรากฏว่าอ้างมติของสภาคริสตจักรในประเทศไทย ที่ไม่สามารถนำมาผูกพันกับกรณีนี้ได้ ซึ่งจะเป็นมติผู้มีอำนาจที่แท้จริง คือ มูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทย ที่เป็นผู้รับใบอนุญาต และยังไม่มีการถอดถอนจากความเป็นครู เพราะการแต่งตั้งถอดถอนผู้อำนวยการและผู้จัดการเป็นอำนาจของผู้รับใบอนุญาต แต่การแต่งตั้งถอดถอนครู เป็นอำนาจของผู้อำนวยการ ร.ร. เพราะฉะนั้น เมื่อคำสั่งออกมาแบบนี้ ทางกฎหมายเรียกว่า โมฆียกรรม ซึ่งเป็นนิติกรรมที่อาจเป็นโมฆะ เพราะมีความผิดปกติ แต่ยังคงดำรงสมบูรณ์อยู่จนกว่าจะมีการบอกล้าง ดังนั้น คำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ของทั้งสองคนนี้จึงยังคงอยู่ ก็ต้องยึดตามนี้ไปก่อน จนกว่าทางผู้รับใบอนุญาตจะมีการบอกล้างคำสั่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโต้แย้ง เพราะคำสั่งยังไม่ถือว่าเป็นโมฆะ
"คำสั่งดังกล่าวแค่ถอดถอนจากตำแหน่งผู้อำนวยการและผู้จัดการ ไม่ได้ถอดถอนความเป็นครู เพราะความเป็นครู ผู้ที่มีหน้าที่ถอดถอนจริงๆ คือ ผู้อำนวยการ ไม่ใช่ผู้รับใบอนุญาต ซึ่งการแต่งตั้งนายศุภกิจ และนายวัชรพงษ์เป็น ผอ.และผู้จัดการนั้น แต่งตั้งมาจากครู แต่เมื่อถอดถอนจากตำแหน่ง ยังไม่มีการถอดถอนจากความเป็นครู นาทีนี้เท่าที่ตรวจสอบทั้งสองท่านยังมีสถานะความเป็นครู ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ แต่หน้าที่ ผอ.และผู้จัดการให้พ้นลงชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง แต่อย่างไรทางผู้รับใบอนุญาตก็ต้องมีการแก้ไขคำสั่ง เพราะที่ออกมานั้นไม่ถูกต้อง" นายอรรถพล กล่าว
นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนการแต่งตั้งผอ.และผู้จัดการ ร.ร.คนใหม่ สองคนนี้พบว่า ไม่เป็นไปตามคุณสมบัติตราสารจัดตั้ง เพราะอายุเกิน และไม่ปฏิบัติในหน้าที่เดิม ซึ่งเป็นเงื่อนไขเฉพาะของกรุงเทพคริสเตียนและกำหนดในตราสารจัดตั้งที่มูลนิธิกำหนด ซึ่ง สช.มีหนังสือแจ้งไปแล้ว ว่าคุณสมบัติของทั้งสองคนไม่ครบถ้วน ดังนั้น เมื่อทราบหนังสือแล้ว เห็นว่าผิดจริง จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ผู้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการแต่งตั้ง ผอ.และผู้จัดการใหม่ภายใน 15 วัน ถ้าไม่แก้ไขในเวลากำหนด สช.ในฐานะผู้อนุญาตก็ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งต้องดูรายละเอียดต่อ เพราะมีหลายมาตรา มีเรื่องของโทษทั้งจำทั้งปรับ และต้องพิจารณาตอนนั้นว่า จะเสียหายมากหรือไม่ หากเสียหายมาก เกิดผลกระทบ สช.อาจสั่งคณะกรรมการบริหารหยุดทั้งคณะและตั้งตัวแทนจาก สช.ไปควบคุมกิจการชั่วคราว ซึ่งก็ภาวนาให้คุยกันให้จบ เพราะทางราชการเองมีภารกิจอื่นอีกมาก