"อนุทิน" เชื่อ "แอ๊ด คาราบาว" ไม่เกี่ยวข้องสารเคมีตัวใหม่ บอกรวยอยู่แล้ว เงินแค่นี้เปลี่ยนจุดยืนไม่ได้ ไม่ห่วงกระทบภาพลักษณ์ สธ. ย้ำสารทดแทนตัวใหม่ ต้องไม่ปนเปื้อน ไม่เป็นพิษอันตรายต่อประชาชน ด้านเกษตรกรราชบุรี-สมุทรสงคราม มอบผลไม้ปลอดสารพิษให้กำลังใจ
วันนี้ (6 พ.ย.) กลุ่มตัวแทนเกษตรกรจังหวัดราชบุรีและสมุทรสงคราม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 5 ประมาณ 30 คน นำโดยนายสนั่น คล้ำเหลือ อาชีพเกษตรกร จ.ราชบุรี อายุ 56 ปี เดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการแบนสารเคมีอันตราย 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส รวมถึงให้กำลังใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมมอบผักและผลไม้ปลอดสารพิษให้กับนายอนุทิน ซึ่งนายอนุทิน ได้นำทั้งแตงกวา ส้มโอ มะพร้าวอ่อนมารับประทาน
นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณกำลังใจจากเกษตรกรทั้ง 2 จังหวัด อย่างไรก็ตาม สำหรับสารทดแทนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดจะต้องมีการตรวจสอบว่า ไม่มีสิ่งปนเปื้อนหรือมีพิษต่อสุขภาพประชาชนหรือเกษตรกร เพราะหากมีพิษ มีสิ่งปนเปื้อนก็จะต้องถูกแบนอีก ไม่ใช่ว่าแบนสารอันตราย 3 ชนิดแล้วจะไม่แบนอีก ทั้งนี้ ยืนยันว่าจุดยืนของ สธ.คือไม่เห็นด้วยกับการใช้สารเคมีตัวอื่น
เมื่อถามถึงสารกลูโฟซิเนตที่มีกระแสว่า อาจจะมีการถูกระงับอีกหรือกำหนดระยะเวลาในการใช้อีก นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ได้กี่ปีไม่สำคัญ แต่ประเด็น คือ มีวัตถุหรือส่วนผสมที่เป็นอันตรายหรือไม่ หากตรวจพบก็ต้องห้าม โดยในส่วนของ สธ.ก็จะต้องดูสารทุกตัวว่า จะมีอันตรายกับร่างกายหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงแอ๊ด คาราบาว อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารทดแทนตัวใหม่ ที่อาจมีการว่าจ้างแอ๊ด คาราบาว จะมีผลกับภาพลักษณ์ สธ. ซึ่งที่ผ่านมาทำงานร่วมกับแอ๊ด คาราบาว ในเรื่องของสารเคมีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเรื่องนี้ และพี่แอ๊ดก็ไม่ได้มาทำงานอะไรกับ สธ. เพราะพี่แอ๊ดก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งด้วยความที่เป็นศิลปินตรงไหนที่เห็นว่าเป็นอันตราย ก็ออกมารณรงค์ด้วยเสียงเพลง แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ สธ. ไม่ได้ทำเพราะว่า สธ.ไปว่าจ้างหรือขอร้องใดๆ เป็นการทำด้วยตัวเขาเอง ส่วนที่บอกมีใครมาว่าจ้างนั้นตนไม่ทราบเรื่องนี้ และเชื่อว่าคนเราออกมารณรงค์ขนาดนี้แล้วมีคนมาว่าจ้างให้เปลี่ยนจุดยืนคงไม่ใช่แอ๊ดคาราบาว เพราะพี่แอ๊ดรวยจะตาย เงินแค่นี้มาเปลี่ยนแอ๊ดไม่ได้ ส่วนที่บอกตนว่าระวังจะเป็นควายถูกจูงจมูกเรื่องแบนสารพิษ แต่ก็ยอมให้จูงหากประชาชนปลอดภัย ดีกว่าเป้นคนฉลาดที่เอาเปรียบประชาชน
นายสนั่น กล่าวว่า ตนเป็นเกษตรกรที่ไม่ใช้สารเคมีมานานกว่า 10 ปี จึงไม่ได้รับผลกระทบกับการแบนสารเคมี ซึ่งต้นทุนถูกกว่าการใช้สารเคมี เพราะการกำจัดศัตรูพืชและแมลงมีสมุนไพรหลายชนิดที่กำจัดได้ผลดี และอยากฝากรัฐบาลให้ทำการเกษตรกรไทยเป็นเกษตรอินทรีที่ทั่วโลกยอมรับ และเป็นเกษตรอินทรีย์ของครัวโลก นอกจากนี้ อยากฝากให้รัฐมีการควบคุมระบบการเกษตรไม่ปล่อยให้ปลูกกันอย่างสะเปะสะปะ และของให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย
นพ.สันทิต บุณยะส่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สมุทรสงคราม กล่าวว่า สถานการณ์การเจ็บป่วยด้วยโรคจากสารเคมีที่ใช้ในการเกษตรพบว่า ในปี 2560-2562 จ.สมุทรสงคราม ไม่พบเกษตรกรป่วยหรือตายจากสารพิษ โดยเกษตรกรในจังหวัดส่วนมากปลูกมะพร้าว ส้มโอ และลิ้นจี่ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด แต่จะใช้แรงงานคนและเครื่องจักร ดังนั้น เกษตรกร จ.สมุทรสงครามจึงไม่ได้รับผลกระทบจากการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด และให้การสนับสนุนในการทำเกษตรปลอดสารพิษ เนื่องจากเกษตรกรเป็นผู้ที่รักสุขภาพห่างไกลจากสารพิษทางการเกษตร ส่วนกรณีที่เครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ได้ออกมาต่อต้านการยุติการใช้สารเคมี 3 ชนิด เครือข่ายฯ มีแกนนำ 6 คน สมาชิกราว 1,091 คน และสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี